บัณฑิต ทองดี นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คกรณีประเด็นร้อนเรื่องภาพยนตร์ The Cave นางนอน โดยระบุว่า
"ความขัดแย้งของหนังที่ผู้กำกับใส่ลงไปในเรื่องของระบบราชการไทย จนเกิดประเด็นดราม่ากับท่านผู้ว่าขวัญใจคนไทย มาจากเรื่องเดียวคือ "การให้สิทธิ์ในแคแล็คเตอร์ของตัวละครสำคัญแก่หนังhollywoodเพียงเจ้าเดียวของรัฐบาล"
เหตุการณ์ถ้ำหลวงใครๆก็รู้ว่านี่คือวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมในการทำหนัง เป็นsuper plot เป็นgreat eventที่ใครก็อยากได้ทุนมาทำ แต่ในเมื่อสิทธิ์ในตัวละครสำคัญไม่มีใครแตะต้องได้ นักทำหนังที่มีpassionมากๆก็เลยหันไปหาข้อมูลและเล่าเรื่องผ่านตัวละครอื่นที่ไม่ใช่ทีมหมูป่า โค้ชเอกหรือท่านผู้ว่า โดยเลือกเล่าผ่านบุคคลที่"ไม่ติดลิขสิทธิ์"อย่างเช่น นักดำน้ำชาวต่างชาติหรือทีมเจาะบาดาลและเมื่อผู้กำกับมาหาข้อมูลจากคนเหล่านี้เขาก็พูดความจริงจากประสพการณ์ที่เจอมาจริงๆ อย่างเรื่องการโดนไล่ไปเก่งที่บ้านหรือการต้องผ่านขั้นตอนขออนุญาตราชการ ผมว่ามันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้จริงทั้งสิ้น
แต่ทุกเคสที่กล่าวมาอาจเป็นเพียงเหตุการณ์เล็กๆในหลายร้อยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงชุลมุนช่วงแรกๆของการจัดระเบียบแค่นั้นเอง เพียงแต่ผู้กำกับเลือกเอามาเล่าในหนังให้เป็นconflict ของหนังซึ่งก็ไม่ได้เป็นประเด็นใหญ่โตใดๆ
สรุปคือ
1.ทอม วอลเลอร์ไม่ผิดที่เล่ามุมนี้ในลายมือแบบของเขาเพราะเขาไม่ได้สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่เจาะลึก แต่คุณทอมก็ควรนำเสนอในแง่มุมที่หลากหลายในแง่ความจำเป็นของราชการไทยที่ทำไมต้องมีขั้นตอนยุ่งยาก
2.ราชการไทยก็ไม่ผิดเพราะในเหตุการณ์ถ้ำหลวงมีคนมาร่วมช่วยเหลือนับหมื่นคนหลายร้อยหน่วยงาน ถ้าไม่มีขั้นตอนการทำงานที่รัดกุมคงมั่วมากๆ ไม่สามารถบูรณาการได้
3.ท่านผู้ว่าก็ไม่ผิด เพราะท่านอยู่ปลายยอดปิระมิด ท่านไม่รู้หรอกว่าคนอื่นๆที่รองจากท่านไปพูดจาอะไรหรือขัดขวางใครบ้าง ท่านดูหนังแล้วรู้สึกไม่เหมือนที่เกิดขึ้นตรงหน้าท่าน ท่านก็ติงเนื้อหาบ้าง
4.รัฐบาลผิดที่ไม่ปรึกษาสมาคมผู้กำกับฯที่เป็นหน่วยงานที่ ผลิตcontentโดยตรง ให้กับอุตสาหกรรมหนังไทย คิดดูสิ ผู้กำกับไทยไม่มีสิทธิ์เล่าเรื่องเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย มันก็เป็นเช่นนี้แล"
บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูซีรีย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น