วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2562

หนังออนไลน์ : ใครที่คิดว่าหนังพากย์ไทยไม่สนุก ต้องลองมาดู JUMANJI The Next Level พากย์ไทยกัน


ผจญภัยไปกับจูแมนจี้ ซึ่งมันฟื้นคืนชีพอีกครั้งหลังจากเด็กหนุ่มคนหนึ่ง เผลอไปเจอเครื่องเล่นเกมตลับแล้วซ่อมมันให้กลับมาใช้งาน แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเกมได้ดูดพวกเขาเข้าไปในเครื่องและต้องสวมบทตัวละครสุดฮา ออกตะลุย ด่านใหม่ๆที่เต็มไปด้วยความโหด ทั้งทะเลทราย ยุคน้ำแข็ง ป่าดงดิบที่เต็มไปด้วยสัตว์อันตราย ทีมนักแสดงชุดเก่าที่จะกลับมากันอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ดเวนย์ เดอะ ร็อค จอห์นสัน, คาเรน กิลเลน, เควิน ฮาร์ท, นิค โจนาส และแจ็ค แบล็ค หรือกระทั่งทีมนักแสดงวัยรุ่นนอกเกมอย่าง Ser’Darius Blain, Madison Iseman, Morgan Turner และ Alex Wolff วันนี้ในโรงภาพยนตร์

บันเทิงต่อที่นี่ >> หนังออนไลน์ 
 


วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ดูหนัง : จอมขโมยซีนใน The Rise of Skywalker บาบู ฟริค พากย์เสียงโดย เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ


หากพูดถึงตัวละครตัวใหม่ใน Star Wars ภาคล่าสุด The Rise of the Skywalker ที่ได้ปิดฉาก Skywalker Saga ทั้ง 9 ภาคลงไปเป็นที่เรียบร้อย หนึ่งในตัวละครที่เป็นที่สนใจและเป็นที่พูดถึงมากที่สุดอีกตัวหนึ่งหลังจากที่แฟนๆได้รับชมหนังคงหนีไม่พ้น เจ้าเอเลี่ยนตัวน้อย บาบู ฟริค (Babu Frik) จอมขโมยซีนในหนังไม่ว่าจะเป็นการกระทำ เสียงพูด หรือความน่ารักเวลาเขาดีใจ ก็ได้ทำให้แฟนๆ Star Wars ตกหลุมรักไปกับเขาไปอย่างง่ายๆ

บาบู ฟริค (Babu Frik) คือช่างเครื่องตัวน้อยผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรกล รวมไปถึงหุ่นดรอยด์ เขาคือเพื่อนเก่า ของ Poe Dameron และเมื่อฝ่ายพันธมิตรได้รับปัญหาภายในภารกิจอันสำคัญภารกิจหนึ่ง Poe, Rey และ Finn จึงต้องเข้าไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าเพื่อนตัวน้อยตัวนี้....ถึงแม้ว่าเขาจะปรากฏตัวออกมาภายในหนังไม่มากนัก แต่ความป่วนของเขาก็สร้างรอยยิ้มให้กับแฟนๆได้ทุกซีน

นอกจากนี้ผู้ที่ให้เสียงพากย์ตัวละครตัวนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น นักแสดงสาว เชอร์ลีย์ เฮนเดอร์สัน (Shirley Henderson) ผู้ที่ก่อนหน้านี้เราต่างรู้จักเธอกันดีในบท เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ (Moaning Myrtle) จาก Harry Potter นั่นเอง

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูหนัง
 


ดูหนัง : เบ ซูจี ในหนัง "ASHFALL นรกล้างเมือง” สาวเกาหลีที่สวยที่สุดแห่งปี 2019


ผู้หญิง 4 มิติ เพื่อนๆ ซูจีต่างบอกว่าเธอ เป็นผู้หญิง 4 มิติ สนิทได้ยาก คาดเดาซูจีไม่ค่อยได้ ยกตัวอย่างนิสัย เช่น ซูจีเป็นคนขี้อายแต่ก็เป็นคนใจกว้างและทำงานหนักมาก ซูจีชอบสีชมพูเธอจึงแต่งห้องนอนด้วยสีชมพู และชอบฟังเพลงรักเศร้าๆ แต่ไม่ชอบดูหนังเศร้า เธอเคยบอกว่าภาพลักษณ์ของเธอต่างจากในทีวี เพราะจริงๆแล้วเธอเสียงดังและคุยเก่งมาก

ซูจีเป็นคนที่ทุ่มเทกับการทำงานมาก เธอยอมตัดผมสั้นเป็นครั้งแรกในซีรีส์เรื่อง While You Were Sleeping (2017) หลังจากไว้ผมยาวมาตลอดตั้งแต่เข้าวงการ และพอมาในซีรีส์เร็วๆ นี้ Vagabond (2019) เธอรับบทเป็นสายลับที่ทำงานอยู่ในโมร็อคโค จึงลงทุนไปเรียนภาษาอาราบิกเพื่อความสมจริงในการแสดง

ซูจีเคยบอกว่าคนดูมักยึดติดกับเธอในภาพลักษณ์นั้น เธอจึงอยากรับบทบาทใหม่ๆ เพื่อให้คนดูเห็นเธอในบทบาทที่แตกต่างออกไป ดังนั้นในผลงานล่าสุด “ASHFALL นรกล้างเมือง” เธอจึงมารับบทเป็น “ชเว จียอง” ภรรยาสาวของ ฮา จองอู ที่ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอด ท่ามกลางความโกลาหลหลังภูเขาไฟเพ็กตูปะทุครั้งวิปโยค

มหันตภัยภูเขาไฟเพ็กตู ปะทุหนึ่งครั้ง วิปโยคทั้งคาบสมุทร แฟนหนังเมืองไทยเตรียมตัวรอพิสูจน์ความตื่นตาระทึกใจสุดยิ่งใหญ่ในหนังมหันตภัยฟอร์มยักษ์แห่งเอเชีย “ASHFALL นรกล้างเมือง” : 9 มกราคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูหนัง
 


วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ดูซีรีย์ : จับมือกันแล้ว ทรู กับ Netflix ชมเคว้งบนทรูไอดีได้แล้ว


กลุ่มทรู ผู้นำด้านคอนเทนต์ และดิจิทัลแพลตฟอร์ม ร่วมกับ เน็ตฟลิกซ์ ผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งและความบันเทิงรายใหญ่ของโลก เติมเต็มความเป็นที่สุดแห่งความบันเทิงระดับโลก ส่งตรงถึงลูกค้าทรูดูเน็ตฟลิกซ์ได้เต็มอรรถรสบนจอใหญ่ ผ่านกล่องทรูไอดีทีวี กล่องแอนดรอยด์ทีวีที่ได้การรับรองมาตรฐานจากกูเกิลรายแรกในประเทศไทย เพื่อเสริมทัพคอนเทนต์ให้ลูกค้าทรูได้เต็มอิ่มกับคอนเทนต์ระดับโลกที่ดีที่สุดทั้ง ทรูพรีเมียร์ลีก ซีรีส์และหนังค่ายดังจากทรูไอดี รวมทั้ง “เคว้ง” ซีรีส์ไทยเรื่องแรกจากเน็ตฟลิกซ์ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการรับชมคอนเทนต์แบบ On Demand มากขึ้น ลูกค้ากล่องทรูไอดีทีวีสามารถรับชม Netflix ได้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป
ลูกค้าทรูรับกล่องทรูไอดีทีวีได้ง่าย ๆ ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ ได้แก่

• สำหรับลูกค้าทรูมูฟ เอช รายเดือน ที่สมัครแพ็กเกจรายเดือนตั้งแต่ 299 บาทขึ้นไป รับกล่องทรูไอดีทีวีทันที! เพียงจ่ายค่าบริการายเดือนเพิ่ม 50 บาท พร้อมรับเงินคืน 50 บาท

ผ่าน TrueMoney Wallet สมัครได้แล้ววันนี้ถึง 31 มกราคม 2563 ที่ทรูช้อป และWeMall

• ลูกค้าที่เปิดซิมทรูมูฟ เอช แบบเติมเงิน รับส่วนลดค่ากล่องทรูไอดีทีวี 50% จ่ายเพียง 1,245 บาท พร้อมรับเงินคืน 1,200 บาท ผ่าน TrueMoney Wallet เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ถึง 31 มกราคม 2563 ที่ร้าน 7-eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ

• สำหรับลูกค้าTrue Gigatex Fiber รับกล่องทรูไอดีทีวี พร้อมในแพ็กเกจที่ร่วมรายการทันที!

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูซีรีย์ 
 


ดูซีรีย์ : มีกระแสออกมาว่า แอปเปิลอาจซื้อ Netflix-Disney ในปี 2020


เว็บไซต์ Hollywood Reporter รวบรวมความเห็นจากคนในวงการหนังที่คลุกคลีกับฮอลลีวูดมานาน รวมทั้งนักลงทุน ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ รวมกว่า 40 ราย ในการคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2020 มีการคาดการณ์อนาคตสตรีมมิ่งด้วย โดยในข่าวนี้จะคัดเฉพาะที่น่าสนใจและเกี่ยวกับอนาคตวงการสตรีมมิ่งที่การแข่งขันจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในปี 2020 ที่จะถึงนี้

แอปเปิลจะต้องไม่พลาดโอกาสเข้าซื้อสตรีมมิ่งอื่น อาจจะเป็น Sony หรือ Netflix เองเลย และ Amazon ก็มีโอกาสจะเข้าซื้อด้วยเช่นกัน เป็นความเห็นจาก Linda Licher ทนายความ และยังมีทนายความอีกคนที่คิดทำนองเดียวกันคือ Leigh Brecheen บอกว่า แอปเปิลอาจซื้อ Disney หรือ Netflix หรือไม่ก็ยอมรับได้ว่า สตรีมมิ่งไม่ได้ช่วยเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์มากขนาดจนส่งผลต่อผลประกอบการของแอปเปิลเอง

ความเห็นจาก Hiram Garcia โปรดิวเซอร์บอกว่า แอปเปิลจะซื้อสตูดิโอใหญ่ และจะใช้เงินเยอะมากในการจับตลาดคอนเทนต์

Apple TV+, Quibi, Peacock (สตรีมมิ่งใหม่ของ NBCUniversal) จะยอมรับตัวเองได้ว่าไม่สามารถแข่งขันในสงครามสตรีมมิ่งได้ (Jon Jashni นักลงทุน)

ความเห็นจาก Cindy Holland ผู้ทำหน้าที่เป็น chief content officer ของ Netflix บอกว่า คนอเมริกันจะเสพคอนเทนต์ต่างประเทศมากขึ้น

ความเห็นจาก WEBER บอกว่า Netflix จะได้รางวัลใหญ่ออสการ์กลับไปในที่สุด

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูซีรีย์
 


วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2562

หนังออนไลน์ : ทอม ครูซ กลับมาเผชิญกับภารกิจครั้งสำคัญ ใน Top Gun: Maverick


หลังจากที่รอคอยกันมานาน สำหรับภาพยนตร์แอคชั่นเรื่อง Top Gun: Maverick - ท็อปกัน: มาเวอริค ที่ล่าสุดได้ปล่อยตัวอย่างสองออกมาให้ชมกันแล้ว พร้อมโปสเตอร์และภาพจากหนังชุดแรกที่เผยภาพ ทอม ครูซ ที่กลับมาเป็นนักบินทดสอบอีกครั้ง


เรื่องราวหลังจากรับราชการเป็นนักบินระดับท็อปของกองทัพเรือมานานกว่า 30 ปี พีท 'มาเวอริค' มิทเชลล์ (ทอม ครูซ) กลับมาสู่ที่ซึ่งเหมาะสมกับเขา เขากลับมาเป็นนักบินทดสอบผู้กล้าหาญและหลีกหนีจากความก้าวหน้าทางการงาน เขากลับมาฝึกหน่วยท็อปกันเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษในรูปแบบที่ไม่เคยมีนักบินที่ยังมีชีวิตอยู่เคยเห็นมาก่อน มาเวอริค ต้องเผชิญหน้ากับ เรือโทแบรดลีย์ แบรดชอว์ (ไมล์ เทลเลอร์) หรือ "รูสเตอร์" ลูกชายของ เรือโทนิค แบรดชอว์ หรือ "กูส" เพื่อนของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว เขาต้องพบกับอนาคตที่ไม่แน่นอนและอดีตที่ตามหลอกหลอน มาเวอริคต้องเผชิญกับความกลัวที่ฝังลึกอยู่ และปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ ซึ่งภารกิจนี้ผู้ที่ได้รับเลือกให้ร่วมบินต้องเสียสละอย่างที่สุด พาราเมาท์ พิคเจอร์ส, สกายแดนซ์ และเจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์ ฟิล์มส์ ร่วมกับ เทนเซนต์ พิคเจอร์ส ภูมิใจนำเสนอ Top Gun: Maverick - ท็อปกัน: มาเวอริค อำนวยการสร้างโดย เจอร์รี่ บรักไฮเมอร์, ทอม ครูซ, คริสโตเฟอร์ แมคควอร์รี่ และ เดวิด เอลลิสัน กำกับโดย โจเซฟ โคซินสกี เขียนบทโดย เออเรน ครูเกอร์, เอริค วอร์เรน ซิงเกอร์ และ คริสโตเฟอร์ แมคควอร์รี่ นำแสดงโดย ทอม ครูซ, ไมล์ส เทลเลอร์, เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี่, จอน แฮมม์, เกลน พาวเวลล์, เลวิส พูลแมน และ เอ็ด แฮร์ริส

บันเทิงต่อที่นี่ >> หนังออนไลน์



หนังออนไลน์ : หนัง The Hulk ฮัลค์แหวกเกราะออกมาคลั่ง ปะทะ คัล ออบซิเดียน ซึ่งไม่มีอยู่ในหนัง


มีการเปิดเผยภาพคอนเซ็ปต์อาร์ทภาพใหม่ออกมาเอาใจแฟนๆซูเปอร์ฮีโร่ยักษ์เขียวจอมพลังอย่าง The Hulk ที่บางคนอาจจะบ่นว่าเจ้ายักษ์เขียวจอมคลั่งนี้มีบทอาละวาดน้อยมากทั้งใน Infinity War และ Endgame ในวันนี้ Ryan Meinerding หัวหน้าฝ่ายพัฒนาด้านภาพแห่งค่าย Marvel ได้ออกมาเปิดเผยรูปภาพของ The Hulk ที่คุณไม่ได้เห็นให้เวอร์ชั่นหนัง

ซึ่งในภาพเราจะได้เห็นว่าในที่สุด บรู๊ซ แบนเนอร์ ในชุดเกราะ Hulkbuster ก็ได้กลายร่างเป็น The Hulk แหวกทำลายเกราะออกมาปะทะ คัล ออบซิเดียน 1 ใน Children of Thanos

“ฮัลค์ออกมาแล้ว! นี่คือสถานการณ์ที่ไม่ได้ถูกใช้ในหนัง Infinity War! มันสนุกมากเลยเลยนะที่ได้ทำงานเกี่ยวกับ Hulk ในหนังเรื่องนี้”

บันเทิงต่อที่นี่ >> หนังออนไลน์
 


ดูหนัง : ลูนี่ทูนส์ กำลังจะถูกนำกลับมาทำใหม่ ในเวอร์ชั่นหนัง Live-action



มีการรายงานว่าทางค่าย Warner Bros. กำลังวางแผนสร้างหนัง Live-action (คนแสดงผสมCG) หนังเดี่ยวเกี่ยวกับตัวการ์ตูนวัยเด็กที่เรารู้จักกันดีอย่าง ไวลี อี. ไคโยตี้ (Wile E. Coyote) จาก ลูนี่ทูนส์ (Looney Tunes) และตอนนี้ทางค่ายได้เดินหน้าโปรเจ็คอย่างเป็นทางการโดยการคัดเอา Dave Green ที่เคยฝากผลงานกำกับมาแล้วใน Teenage Mutant Ninja Turtles: Out of the Shadows เมื่อปี 2016 มานั่งแท่นผู้กำกับเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย

จากการรายงานข่าวใหม่ล่าสุดโดยสื่อ Variety ได้มีการเผยข้อมูลว่า Dave Green ได้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับ Looney Tunes โดยค่าย Warner Bros. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อช่วยในการร่วมกันพัฒนาโปรเจ็ค และหนังจะเป็นแนว “live-action-animation-hybrid” ที่จะเป็นหนังคนแสดงผสม CG ตัวการ์ตูนแบบสมจริง ปลุกการ์ตูนในตำนานให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง อย่างไรก็ตามจากการรายงานโดยสื่อโปรเจ็คนี้ยังเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ถึงแม้ได้ตัวผู้กำกับแล้ว แต่ยังขาดผู้เขียนบทอยู่... .ในตอนนี้ได้มีการเปิดเผยว่า หนังเดี่ยว ไวลี อี. ไคโยตี้ จะมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Coyote Vs. Acme (อาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต)

สำหรับแฟนๆการ์ตูนวันเด็กอย่างลูนี่ทูนส์คงต้องอดใจรอกันหน่อยนะ ไม่แน่ว่าหากหนังเดี่ยวเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ เราอาจจะได้เห็นหนังจักรวาลลูนี่ทูนส์เรื่องอื่นๆเกิดขึ้นก็ได้ และนั่นก็รวมไปถึง บักส์ บันนี่ (Bugs Bunny) และ ทวีตตี้ (Tweety) อีกด้วย

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูหนัง
 


วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ดูซีรีย์ : มาดูหนัง TENET หนังจารกรรมแนวใหม่ ที่ถ่ายทำถึง 7 ประเทศ


ในวงการภาพยนตร์มีผู้กำกับไม่กี่คนที่แฟน ๆ มักจะเฝ้ารอภาพยนตร์ของเขาอยู่เสมอ หนึ่งในนั้นคือ คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้กำกับชั้นเยี่ยมที่หลายคนยกให้เป็นท่านพ่อ กับการสร้างภาพยนตร์ที่มักจะมีความเหนือชั้นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคงานสร้าง หรือเนื้อหาของภาพยนตร์ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ และคุ้มค่าแก่การเฝ้ารอ และตอนนี้เขากำลังจะมีภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่ชื่อว่า TENET ภาพยนตร์ปริศนาที่เรารู้แค่เพียงนักแสดงที่ร่วมแสดง กับคำใบ้ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับเวลา แต่นอกเหนือไปจากนั้นแล้ว เราแทบไม่รู้พล็อตเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้เลย

ล่าสุด Entertainment Weekly ได้เปิดเผยภาพจากภาพยนตร์เรื่อง TENET ออกมาให้ได้ชมกันแล้ว เป็นภาพของ 3 นักแสดงนำของเรื่อง ได้แก่ John David Washington, โรเบิร์ต แพททินสัน และเอลิซาเบธ เดบิกกิ จากภาพแล้วให้ความรู้สึกออกมาในแนวของภาพยนตร์สายลับสไตล์ James Bond แต่มันอาจจะไม่ได้เป็นแบบที่เราคิดก็ได้

คริสโตเฟอร์ โนแลน ได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมของภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาด้วย พร้อมกับบอกว่านี่คือภาพยนตร์ที่โปรดักชั่นงานสร้างใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเคยสร้างมา และเป็นภาพยนตร์ที่ทะเยอทะยานที่สุดเท่าที่เขาเคยทำ เขาให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า “เรากำลังลองเสี่ยงดูกับภาพยนตร์แนวจารกรรมครับ แต่เราก็ได้ลองอะไรใหม่ ๆ อีกหลายอย่างเลย ผมได้ลองสร้างออกมาหลากหลายแนวและหวังว่ามันจะน่าตื่นเต้นและสร้างความสดใหม่ได้ โปรดิวเซอร์เอ็มม่า โทมัสกับผมได้ใส่งานโปรดักชั่นขนาดใหญ่มาก แต่นี่คืองานที่ใหญ่ที่สุดในสเกลระดับนานาชาติเลย...

            ...เราถ่ายทำกันใน 7 ประเทศด้วยกัน ในทุก ๆ สถานที่ ร่วมด้วยกับนักแสดงชื่อดังกับฉากใหญ่ยักษ์ ไม่ต้องถามเลยล่ะครับ นี่คือหนังที่ทะเยอทะยานที่สุดเท่าที่เราเคยทำมาแล้ว”
ออกมาเป็นแบบนี้ยิ่งน่าสนใจขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียวว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะออกมาในรูปแบบไหน และมีเนื้อเรื่องที่พลิกผันอย่างไร ต้องรอติดตามชมกับ TENET วางกำหนดฉายไว้ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2020

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูซีรีย์
 

ดูซีรีย์ : รวมความเห็นแฟนสตาร์วอร์สที่เทใจให้ Star Wars: The Rise of Skywalker 100%



ความยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์มหากาฬของ Star Wars ที่มีมาตลอดระยะเวลา 40 กว่าปีที่ผ่านมาแล้ว เรื่องราวที่มีแฟน ๆ ติดตามมาอย่างยาวนาน ที่ต่างก็พูดถึงกันมากมาย ล่าสุดเรื่องราวของพวกเขาที่เปิดขยายมาสู่ไตรภาคใหม่ในยุคสมัยนี้กำลังจะสิ้นสุดลงใน Star Wars: The Rise of Skywalker การต่อสู้ระหว่างด้านมืดและด้านสว่าง, ปฐมภาคีและฝ่ายต่อต้าน กำลังจะระอุขึ้นถึงขีดสุด ตอนนี้มีผู้ชมบางส่วนได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้กันไปแล้ว พวกเขาคิดอย่างไรกันบ้างไปดูกัน



บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูซีรีย์ 
 

วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ดูหนัง : การกำกับภาพและออกแบบงานสร้างใน Black Christmas การออกแบบงานสร้าง การตกแต่งฉาก สายไฟคริสต์มาสสามร้อยดวง


อีกวิธีหนึ่งที่ชวอร์ทซ์บาร์ดจากภาพยนตร์ต้นฉบับที่เขานำมาใช้คือตัวเลือกเรื่องการใช้แสงของเขา ระหว่างซีเควนซ์หนึ่งในบ้านสโมสร พวกเขาไม่ได้ใช้แสงสำหรับภาพยนตร์เลย แต่ทั้งฉากสว่างไสวด้วยไฟคริสต์มาส ไม่เพียงแต่จะมีไฟคริสต์มาสอยู่ในเฟรมของช็อตนั้นเท่านั้น แต่ยังมีการติดไฟคริสต์มาสตามบอร์ดด้านนอกเฟรมเพื่อสร้างแสงที่สม่ำเสมออีกด้วย “พอฆาตกรมาอยู่ในบ้าน เขาก็ปิดไฟหลายดวง ทิ้งให้บ้านสว่างไสวด้วยไฟคริสต์มาสเพียงอย่างเดียว” ชวอร์ทซ์บาร์ดกล่าว “เราชื่นชอบลุคของเลนส์ซูม

 ซึ่งทำให้นึกถึงสไตล์ของหนังต้นฉบับ เรามีเลนส์ซูมที่เก่าแก่มากๆ อาจจะเป็นเลนส์แบบเดียวกับที่เคยใช้ใน Black Christmas ต้นฉบับ เลนส์จากยุค 60s ที่เราซื้อมาสำหรับ Always Shine มันมีลุควินเทจที่ดึงดูดใจ แต่มันก็เป็นเลนส์ที่ช้ามากๆ ด้วย ซึ่งหมายความว่ามันต้องอาศัยแสงสว่างมากๆ วิธีแก้ปัญหาคือการที่เราใช้กล้องพานาโซนิค วาริแคม ซึ่งเป็นกล้องที่ถ่ายทำในที่มืดได้ดีมากๆ มันทำให้เราสามารถใช้เลนส์เก่าที่ช้าตัวนี้ได้แม้ว่าเราจะถ่ายทำภายใต้แสงไฟคริสต์มาสจริงๆ ได้น่ะคะ

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูหนัง 
 

ดูหนัง : โปรเจคหนังสยองขวัญ เจมส์ วาน Malignant ถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว


หากพูดถึงเจมส์ วาน หลายคนคงรู้กันดีว่า เขาคือหนึ่งในนักสร้างหนังฝีมือดีผู้เริ่มต้นมาจากภาพยนตร์ระทึกขวัญ ก่อนจะสร้างจักรวาลสยองขวัญที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง The Conjuring Universe หลังจากนั้นเขาก็ได้ผันตัวไปสร้างภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่สุดยิ่งใหญ่อย่าง Aquaman ที่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่คำวิจารณ์และรายได้ ระหว่างนั้นเขาก็ได้นั่งแท่นเป็นผู้อำนวยการสร้างของภาพยนตร์หลายเรื่อง จนกระทั่งตอนนี้เขาได้กลับมากำกับภาพยนตร์อีกครั้งแล้ว

Malignant คือชื่อของภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่กำกับโดยเจมส์ วาน แม้ว่าในตอนนี้เราจะยังไม่มีรายละเอียดว่านี่จะเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับอะไร หรือจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเฟรนไชส์ที่เขาสร้างเอาไว้หรือไม่ แต่ข้อมูลอัพเดตล่าสุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ เจมส์ วานได้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยเขาได้อัพเดตผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว เป็นภาพที่ถ่ายทำบรรดานักแสดงในภาพยนตร์ พร้อมกับข้อความที่เขียนว่า

“ตอนนี้เราถ่ายทำ Malignant กันเสร็จสิ้นไปเมื่อสุดสัปดาห์ ขอบคุณทีมงานและนักแสดงอันแสนมหัศจรรย์ทุกคน พวกคุณทำงานกันหนักมาก และทำให้เกิดสิ่งที่แสนพิเศษขึ้น แทบอดใจรอไม่ไหวที่จะเข้าสู่ช่วง Post-Production แล้ว”

  มารอติดตามกันต่อไปว่าภาพยนตร์เรื่อง Malignant จะออกมาเป็นภาพยนตร์ในรูปแบบไหน โดยภาพยนตร์เรื่องนี้วางกำหนดฉายเอาไว้ในวันที่ 12 สิงหาคมปี 2020

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูหนัง

ดูหนัง : มาดูการออกแบบชุดสำหรับหนีฆาตกรโรคจิตของ สี่สาวใน Black Christmas


 การถ่ายทำภาพยนตร์ท่ามกลางฤดูหนาวในนิวซีแลนด์ช่วยกำหนดการตัดสินใจบางอย่างของผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายเจนดรา วัตสันที่มีต่อตัวละครได้ “ชุดจะต้องใช้งานได้จริงค่ะ” วัตสันกล่าว “ยกตัวอย่างเช่น ชุดส่วนใหญ่จะมีแขนยาวเพื่อซ่อนกระเป๋าน้ำร้อนข้างใต้ นอกจากนั้น ด้วยความที่ชุดส่วนมากจะต้องเปื้อนเลือด เราก็เลยต้องทำชุดบางแบบขึ้นมาหลายๆ ชุด เราพิจารณาถึงปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ระหว่างการเตรียมงานของเราค่ะ”

ตัวละครหลักหญิงทั้งสี่คนมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันมากๆ ซึ่งวัตสันก็คำนึงถึงในการออกแบบชุดของเธอ “ไรลีย์ไม่อยากจะโดดเด่น ดังนั้น ชุดของเธอก็จะต้องเรียบง่ายแต่ไม่น่าเบื่อ” วัตสันกล่าว “คริสเป็นคนขี้เล่นและเข้มแข็ง ดังนั้น้ สีสันและลวดลายก็เลยเป็นทิศทางที่ฉันเลือกสำหรับเธอ และบู๊ทส้นตึกสุดเท่ของเธอก็เป็นตัวปิดจบสำหรับตัวละครของเธอ มาร์ตี้เป็นนักกีฬา แต่ก็มีความเป็นผู้หญิง เราก็เลยพยายามจะคุมสีสันของเธอให้เป็นกลาง ด้วยเนื้อผ้าที่อ่อนนุ่ม เป็นผู้หญิง ในขณะที่เจสซีค่อนข้างจะตามเทรนด์ ดังนั้น หลักๆ แล้วเธอก็จะสวมกางเกงยีนส์รัดรูปและเสื้อไหมพรมเอวลอยน่ะค่ะ”

อย่างไรก็ดี มีฉากหนึ่งที่สี่สาวอยู่ในชุดเดียวกัน นั่นคืองานแสดงความสามารถของสโมสรดีเคโอ ในฉากนี้ สาวๆ ได้ขึ้นแสดงระหว่างสวมชุดที่เหมือนกัน ซึ่งวัตสันและทีมงานของเธอได้ตัดเย็บขึ้นด้วยมือ “สำหรับการแสดงของพวกเธอในงานแสดงความสามารถของสโมสรผู้ชาย พวกเธอสวมชุดแซนต้าเซ็กซี สนุกๆ” วัตสันกล่าว “ไอเดียคือมันน่าจะเหมือนสิ่งที่พวกสาวๆ ซื้อมาจากร้านคอสตูม แต่เราเลือกที่จะตัดเย็บชุดให้สาวๆ แต่ละคน วิธีนั้นทำให้เราสามารถเลือกเนื้อผ้าและขนเฟอร์ที่ดีที่สุดมาใช้และทำให้แน่ใจว่าพวกมันจะพอดีกับพวกเธอแต่ละคนอย่างเพอร์เฟ็กต์ค่ะ”

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูหนัง



วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ดูซีรีย์ : มาร่วม ผจญภัยครั้งสุดท้าย ของ Digimon Last Evolution


โปรเจกต์ฉลองครบรอบ 20 ปีของอนิเมะชุด  Digimon Adventure โดยในช่วงเดือน ก.พ.ปี 2020 จะมีการฉายภาพยนตร์ดิจิม่อน เรื่อง Digimon Adventure: Last Evolution Kizuna เนื้อหาจะเกี่ยวกับดิจิม่อนและเด็กผู้ถูกเลือก ซึ่งโตเป็นผู้ใหญ่แล้วในวัย 19-23 ปี ซึ่งหนังยังได้ เซกิ ฮิโรมิ ผู้กำกับดิจิมอนฉบับดั้งเดิม มาร่วมดูแลโครงการนี้ด้วย รวมถึงยังได้ผู้ออกแบบตัวละครและดีไซน์ดิจิม่อนในฉบับดั้งเดิม มาร่วมงานสร้างด้วย เรียกได้ว่าเป็นการปลุกความทรงจำของเด็กยุค 90's แบบเต็มที่เลยทีเดียว

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูซีรีย์ 
 


ดูซีรีย์ : หนังสยองขวัญชวนขนหัวลุก ฆาตกรต่อเนื่องคนแรกของเวียดนาม Kumanthong - กุมารทอง ราคะ เฮี้ยน


ทำเอาสยองขนหัวลุกตั้งแต่ที่ปล่อยตัวอย่างแรก สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Kumanthong ในชื่อภาษาไทยว่า กุมารทอง ราคะ-เฮี้ยน ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงอันน่าสะพรึงที่เกิดขึ้น ของฆาตกรต่อเนื่องคนแรกของเวียดนาม ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ทำเงินเปิดตัวสูงสุดในประวัติศาสตร์หนังเวียดนาม ด้วยยอดรายได้เข้าฉายวันแรกสูงถึง 6.8 พันล้านดอง พร้อมกันนี้ยังได้ปล่อยใบปิดไทยออกมาให้สะพรึงพร้อมกันอีกด้วย

กุมารทอง ราคะ-เฮี้ยน เล่าเรื่องราวของ ซอย (หว่าง เอี๊ยน จีบี) สาวใบ้หูหนวก ที่ใช้ชีวิตอย่างสงบในหมู่บ้านใจกลางดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง จนกระทั่งวันหนึ่งมีชายแปลกหน้าชื่อว่า ลลิว ฮวน (กวาง ต๋วน) มาเยือน เขาอ้างว่าตนคือ หมอผีผู้มีวิชาไสยศาสตร์กล้าแกร่ง และได้รับความเชื่อถือจากคนในหมู่บ้านทันทีที่สามารถรักษาชาวบ้านคนหนึ่งให้หายขาดจากอาการประหลาดได้อย่างปาฏิหารย์ ฮวน ได้พบและตกหลุมรัก ซอย แต่แทนที่จะใช้วิธีเอาชนะใจแบบคนทั่วไป เขากลับเลือกทำเสน่ห์ใส่สาวอันเป็นที่รัก ถึงแม้เขาจะได้ทั้งตัวและหัวใจของเธอมาครอบครองจนได้แต่งงานกันในที่สุด แต่แล้วชีวิตคู่อันสวยงามกลับเปลี่ยนเป็นฝันร้าย เมื่อ ซอย พบว่า สามีของเธอมีอดีตอันมืดหม่นซ่อนอยู่ และเป้าหมายที่แท้จริงของเขานั้น ต้องแลกกับการสละชีวิตของชาวบ้าน พร้อมกับต้องทำพิธีปลุกวิญญาณอีกนับครั้งไม่ถ้วน

ผลงานการผู้กำกับโดย เล บิ่ง ยาง (Le Binh Giang) อำนวยการสร้างโดย ดิง ถิ แทง เฮือง (Dinh Thi Thanh Huong) นำแสดงโดย กวาง ต๋วน (Quang Tuan) รับบทเป็น ลลิว ฮวน, หว่าง เอี๊ยน จีบี (Hoang Yen Chibi ) รับบทเป็น ซอย, ดิง อี ยอูง (Dinh Y Nhung) รับบทเป็น อา มู้ย, แทง ตู๋ (Thanh Tu) รับบทเป็น เยน, แทง หมี (Thanh My) รับบทเป็น กุย และ ลา แทง (La Thanh) รับบทเป็น ตัม เป็นต้น

Warner Bros. Pictures ได้ร่วมมือกับ CHAI Digital CINEMA และได้รับสิทธิ์การจัดจำหน่ายภาพยนตร์ กุมารทอง ราคะ-เฮี้ยน ในประเทศไทย มีโปรแกรมเข้าฉายวันที่ 9 มกราคม 2563 ในโรงภาพยนตร์

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูซีรีย์ 
 


วันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2562

หนังออนไลน์ : เผยชุดมิติควอนตัม ที่อยู่ในหนังเรื่อง Endgame เวอร์ชั่นดาร์คสุดเท่ห์

Ryan Meinerding หัวหน้าฝ่ายพัฒนาด้านภาพของค่าย Marvel ได้ทำการเปิดเผยภาพ Tony Stark และ Steve Rogers ในชุดทีม Avengers ที่ใช้ในภารกิจ “ปล้นเวลา” ฝ่ามิติเวลาย้อนอดีตในมิติควอนตัม อีกเวอร์ชั่นหนึ่งที่ไม่ได้ถูกใช้ภายในหนัง Avengers: Endgame โดยชุดนี้จะเป็นชุดเวอร์ชั่นแรกที่มีสีเข้มและเน้นสีดำมืดมากกว่าที่จะเป็นสีสว่างขาว-แดง ที่ปรากฎออกมาภายในหนังเวอร์ชั่นฉบับสมบูรณ์


จากอินสตาแกรม ryan_medinerding_art ได้เปิดเผยชุดภาพพร้อมแคปชั่นว่า

“ชุดแห่งกาลเวลา! (Time Suits!) ชุดนี้ออกแบบเบื้องต้นโดย @wes_burt และ @aleksibriclot และผมก็ได้ปรับแต่งบางส่วนในช่วงขั้นตอนสุดท้ายในการสร้างให้ดูสว่างขึ้น. และที่คุณเห็นอยู่นี่คือชุดในเวอร์ชั่นดาร์ค”

หากเราได้เห็นชุดนี้ถูกใช้ภายในหนังจะดูเท่ขนาดไหน แล้วสำหรับแฟนๆคิดว่าชุดดำ-แดง หรือขาว-แดง ดีกว่ากัน?

เตรียมพบกับการออกแบบชุดเท่ๆใหม่ๆได้ในหนังเรื่องล่าสุดของ MCU ที่กำลังจะมาถึงอย่าง

Black Widow เข้าฉาย 29 เมษายน 2020 ในโรงภาพยนตร์


บันเทิงต่อที่นี่ >> หนังออนไลน์ 
 

หนังออนไลน์ : เฉินหลง คัมแบ็กนำทีมบู๊ระห่ำ ต้อนรับตรุษจีน ใน แวนการ์ด : Vanguard


นับเป็นข่าวดีสำหรับแฟนภาพยนตร์แอคชั่น และแฟน ๆ ของแอคชั่นสตาร์ของเอเชียอย่าง เฉินหลง เพราะทาง บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ร่วมมือกับ วอร์เนอร์ บราเดอร์ส ประเทศไทย ได้รับสิทธิ์การจัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่อง "แวนการ์ด" (Vanguard) ในประเทศไทยเป็นที่แน่นอนแล้ว

แถมล่าสุด ยังได้ปล่อยตัวอย่างแรกซับไทยออกมาให้ชมกัน ซึ่งนอกจากเจ้าพ่อนักบู๊อย่าง เฉินหลง แล้วยังได้เห็นทัพนักแสดงที่มาระเบิดความมันส์กันอย่างคับคั่ง อาทิ หยางหยาง, อ้ายหลุน, มิย่า มูฉี และ จูเจิ้งถิง เป็นต้น ซึ่งแค่ตัวอย่างแรกที่ปล่อยออกมานั้น ก็ทำเอาแฟนภาพยนตร์อดใจรอแทบไม่ไหว เพราะจัดเต็มโปรดักชั่นสุดอลังการ บู๊สุดระห่ำ แอคชั่นมันส์แบบจัดเต็ม บอกได้เลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

"แวนการ์ด" (Vanguard) เรื่องราวการต่อสู้ไล่ล่าข้ามทวีปของทีมแวนการ์ด องค์กรรักษาความปลอดภัยระดับนานาชาติ ที่นำทีมโดย ถังฮั่วถิง (เฉินหลง) และสมาชิกมากฝีมืออย่าง เหลยเจิ้นอวี่ (หยางหยาง) ที่ต้องเสี่ยงชีวิตต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายเพื่อช่วยเหลือนักธุรกิจชาวจีนและลูกสาวของเขา พร้อมยุติแผนการก่อการร้ายครั้งใหญ่ที่มีชีวิตผู้บริสุทธิ์นับล้านเป็นเดิมพัน

แวนการ์ด : Vanguard ระเบิดความมันส์ต้อนรับตรุษจีน 25 มกราคม 2020 นี้ ในโรงภาพยนตร์

บันเทิงต่อที่นี่ >> หนังออนไลน์
 

ดูหนัง : The Florida Project เป็นหนังการดิ้นรนของคนชั้นล่าง


ชื่อของ “ฌอน เบเกอร์” เป็นที่รู้จักจากหนังอินดี้ไอเดียสุดบ้าคลั่ง เล่าถึงชีวิตสุดจี๊ดของสาวข้ามเพศด้วยการใช้โทรศัพท์ iPhones 5S ถ่ายทำ ในปี 2015 ขณะที่หนังเรื่องล่าสุดอย่าง The Florida Project เบเกอร์ ก็ยังคงพูดถึงการดิ้นรนของคนตัวเล็กๆ ในสังคมชั้นล่างเช่นเคย ผ่านตัวละครสองแม่ลูก “ฮัลลี่ย์-มูนี่” คุณแม่วัยใสและลูกน้อยที่ใช้ชีวิตอยู่ในโรงแรมเล็กสภาพไม่ต่างจากรูหนูที่มีชื่อตึกว่า Magic Castle โดย “มูนี่” มีชีวิตช่วงซัมเมอร์ด้วยการวิ่งเล่น สร้างความปั่นป่วน ความวุ่นวายทุกที่ที่เธอไป แถมมีความกร้านโลก พูดจาหยาบคาย ขณะที่แม่ของเธอ หรือโลกของผู้ใหญ่ แม่ของเธอต้องเที่ยวหางานทำทุกวิถีทางเพื่อจ่ายค่าเช่า และเลี้ยงดูมูนี่แบบปากกัดตีนถีบสุดๆ โดยมี บ็อบบี้ ผู้จัดการโรงแรมที่มักจะเข้าไปอยู่ในทุกๆ สถานการณ์ของโรงแรมแห่งนี้

ส่วนตัวพูดไม่เต็มปากว่าชอบหนังเรื่องนี้หรือไม่ หนังเล่าแบบไปเรื่อยๆ ไม่มีความพีค หรือไดนามิคใดๆ เน้นวีรกรรมสุดแสบของเด็กๆ และในแง่ความลึกของมิติตัวละครค่อนข้างน้อย แต่สิ่งที่หนังต้องการจะพูดถึงการต่อสู้ดิ้นรน สะท้อนภาพสังคมชั้นล่าง ความฝันในแบบอเมริกันดรีม และชีวิต หนังนำเสนอออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติและสวยงามในตัวเอามากๆ

ประเด็นชนชั้นล่าง หนังเผยให้เห็นสภาพสังคมที่ถูกแบ่งแยกชนชั้นอย่างชัดเจน เต็มไปด้วยการดิ้นรน ต่อสู้ ขณะที่ปมคุณแม่วัยใส โมเมนต์ระหว่างแม่-ลูก คือความสวยงามที่สุดในหนัง ความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องพูดว่า แม่รักลูก หรือคำสอนโลกสวย โตไปต้องเป็นคนดี กลับกัน ทุกซีน ตัวละครแม่ แทบไม่เคยเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกเลยด้วยซ้ำ แต่เธอสอนให้มูนี่เอาตัวรอดในสังคมนี้ และทำทุกอย่างให้มูนี่มีความสุข ถึงจะเป็นความสุขในโลกเพี้ยนๆ ก็เถอะ และเธอก็มีความสุขในแบบของเธอจริงๆ แม้ความไร้เดียงสา จะไม่ได้ทำให้เธอเข้าใจในสิ่งที่ผู้ใหญ่ต่อสู้เลยก็ตาม

ตัวละคร บ็อบบี้ แสดงโดย วิลเล่ม เดโฟ คือตัวแทนของคนที่ดิ้นรนอย่างหนัก มีความกลืนไม่เข้าคายไม่ออกในหลายสถานการณ์ ผู้จัดการโรงแรมที่ต้องดุร้ายในหน้าที่ แต่จิตใจดี เราจึงเห็นตัวละครนี้ควยช่วยเหลือ มูนี่ และ ฮัลลี่ย์ ตลอด แม้จะไม่ค่อยแสดงออกตรงๆ หรือพูดจาภาษาดอกไม้ด้วยก็ตาม

อีกประเด็นที่ชอบ หนังมีการใช้สัญญะมากมายในหนังทั้งสี การตีความ เซ็ตติ้งของหนังที่วางให้โรงแรมอยู่ใกล้กับดิสนีย์แลนด์ ดินแดนที่เป็นความฝันของเด็กๆ ทั่วโลก แถมห้องพักรูหนูยังกล้าๆ ตั้งชื่อสวยหรูว่า Magic Castle (ล้อกับ Magic Kingdom ที่สวยดั่งเทพนิยาย) ซึ่งคอนทราสกับสภาพความเป็นอยู่มาก หลายๆ ซีนที่ “มูนี่” แอนด์ เดอะ แก็งค์ พยายามวิ่งออกไปเล่นในที่ไกลออกไป แล้วจินตนาการถึงบ้านในฝันกลางบ้านร้าง จึงเป็นภาพที่เจ็บปวดมากกว่าน่าเอ็นดู ซึ่งหนังก็ค่อยๆ ยกระดับความกระอักกระอ่วนขึ้นเรื่อยๆ ได้ดี


ผู้กำกับ ณอน เบเกอร์ ยังเก่งในการใช้สีในหนังเหมือนเดิม สีสันลูกหวานสวยๆ ถูกฉาบบนโมเตลแห่งนี้เอาไว้ เหมือนที่หนังพยายามเอาความใสซื่อ น่ารักของเด็กๆ มาเป็นแกนเรื่อง ทั้งที่จริงๆ มันเป็นหนังที่พูดเรื่องสภาพสังคม และการดิ้นรนที่ค่อนข้างหนักทีเดียว รวมถึงการกำกับภาพ ก็ออกมาตีและสวย เปิดโอกาสให้แฟนๆ ตีความได้หลากหลายจริงๆ

เสียดายที่หนังไม่ได้ทำให้ตัวละครดูลึกหรือมีมิติ ที่จะทำให้คนดูรักตัวละครได้มากกว่าการเอ็นดูวีรกรรมบ้าๆ ของเด็กๆ กลุ่มนี้ แต่สุดท้าย หนังมันตอบตัวเองทุกอย่างได้สมบูรณ์แบบมาก จนไอ้ที่เสียดายรู้สึกว่าไม่จำเป็นเลย นี่คือหนังที่ใสซื่อ บริสุทธิ์ และปล่อยหมัดฮุคให้เราเห็นสภาพการดิ้นรนของตัวละครได้อย่างดี

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูหนัง 
 

ดูหนัง : มาย้นดูหนังเก่าทำความรู้จักกับ Jigsaw มาจนถึงภาคที่ 8 แล้ว


ออกตัวก่อนว่าส่วนตัวผู้เขียนค่อนข้างเป็นแฟนประจำหนังชุด SAW เป็นการส่วนตัว แต่ทว่าความชอบต่อภาค 4 เป็นต้นมา กลายเป็นกราฟต์ที่ดิ่งลงอย่างน่าถอนหายใจ เพราะจากที่หนังเคยมีนัยยะในเรื่องการสอนให้คนเรียนรู้จักคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ แม้จะเป็นเสี้ยวเล็กๆ ที่ผู้ชมพอจะได้นอกจากความบันเทิง แต่ทันทีที่ปิดไตรภาคแรกลง หนังก็ละทิ้งจิตวิญญาณตัวเอง มาเป็นหนังที่ขายฉากการตายแหวะๆ จากกับดักมรณะที่ไร้ทางรอด จนเป็นหนังที่ดูทีไรก็ชวนเป็นลมแทน แถมเสน่ห์การหักมุมที่เคยเฉียบคม ก็ออกทะเลไปเรื่อยๆ

จนการมาถึงภาคที่ 8 ผู้เขียนเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าหนังจะต้องทำได้ถึงระดับ 3 ภาคแรก แค่ทำให้ออกมาสนุกก็น่าจะโอเค ซึ่งใน Jigsaw มีบรรยากาศในการกึ่งๆ รีบูทพอสมควร แต่ก็คงไว้ด้วยกลิ่นอายเดิมๆ ในการเป็นหนังไล่ล่าสืบสวนสลับกับเกมมรณะ

ความน่าสนใจในภาคนี้ หนังดูจะเน้นความเข้มข้นในการสืบสวนมากขึ้น และปมการฟื้นคืีพของ “จิ๊กซอว์” หรือ “จอห์น เครเมอร์” ที่หลักฐานต่างๆ บ่งชี้ว่าเขากำลังกลับมาควบคุมเกมสุดโหดที่มีชีวิตผู้คนเป็นเดมิพันอีกครั้ง

จริงๆ หนังเปิดตัวมาได้ค่อนข้างน่าสนใจ มีจังหวะที่ดูกระชับฉับไว แต่สุดท้าย หนังก็กลับมาวังวนเดิมๆ คือตกม้าตายด้วยบทที่กลวงสุดๆ และการหักมุมที่เล่นใหญ่เข้าไปทุกที ดูไปก็ได้แต่สงสารเฟรนไชส์ Saw ที่เละเทะออกทะเลมาไกลเพียงนี้ หนังมาถึงภาค 8 ได้ ก็มาแบบสีข้างถลอก และอ่อนแรง เราเห็นการสืบสวน หักมุม และกับดักจากหนังชุดนี้มาแล้วนับไม่ถ้วน สิ่งต่างๆ จึงไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร

สิ่งที่ไม่ชอบในภาคนี้ หนังขาดพลัง และความซับซ้อนของเรื่องที่ไม่เฉียบคมอย่างที่เคยเป็น ความไฮเทคของตัวกับดักลดทอนความดิบและ “หวาดเสียว” ลงไปมาก ยิ่งในภาคก่อนๆ ตัวกับดักจะมีช่วงเวลาบีบหัวใจ ที่เล่นกับเวลาและการตัดสินใจของผู้เล่น ที่ทำคนดูมีอารมณ์ร่วมไปด้วย จนเป็นเสน่ห์ของหนัง ภาคนี้ถือว่าธรรมดามาก กับดักแต่ละชิ้นไม่ว้าวเลย


บท … เข้าขั้นพังพินาศเลย การหักมุมที่ดีในภาคก่อนๆ มันมาจากการเล่าเรื่อง วางกับดักใส่คนดูไปเรื่อยๆ แต่ภาคนี้อยากอะหักมุมอะไรก็ใส่ๆ โยงๆ ไปเรื่อยชนิดดูถูกคนดู พาร์ทสืบสวนคือทำให้ตำรวจในหนังดูโง่ไปหมดเลย ทุกอย่างเบา ย้อนแย้ง ที่มาที่ไปของตัวละครเบาหวิว หลายมุขแอบอุทานเบาๆ เอายังงี้เลยหรอ? จริงๆ ก็ทำใจไว้แล้ว เพราะภาคหลังๆ ก็เละเทะ แต่ไม่คิดว่าภาคนี้จะหนักขนาดนี้

 ภาคนี้ทำให้หัวใจ จิตวิญญาณความคลาสสิคของตัวละคร “จิ๊กซอว์” ดูลดลงไปเยอะ อุดมการณ์ที่อยากสอนสั่งให้คนเห็นคุณค่าของการมีชีวิต กลายเป็นดัดสันดานคนที่มาทำบาปกับตัวเองและคนรอบข้างซะงั้น เกมแทบไม่ได้แฝงแมสเซจอะไรเลย สำหรับผู้เขียน ความคลาสสิคมันจบตั้งแต่ภาค 3 แล้ว ที่เหลือคือทำออกมาหากินกับแบรนด์ Saw ที่ขายได้ทุกช่วงเทศกาลฮาโลวีน ซึ่งพอเป็นเกมของผู้สืบทอด มันหมดจิต

igsaw จึงเป็นงานที่พอจะมีกลิ่นอายบางๆ ให้แฟนๆ หายคิดถึงได้บ้าง ฉากโหดพอมีให้แหวะเล็กน้อย แต่คุณภาพ และความออริจินัลแทบไม่เหลือ มุขซ้ำซาก บทแย่ ถือว่าดูในฐานะแฟนหนังที่ตามกันมาถึง 7 ภาค แต่จบแล้วก็จบกันไม่มีอะไรให้พูดถึง อยากเอ็นจอยกับหนัง อาจต้องทิ้งตรรกะทุกสิ่งในโลกทิ้งไป เพราะหนังมีการหักมุมที่เอ่อ…ต้องไปดูเอง

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูหนัง 



วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2562

หนังออนไลน์ : เอลซ่าในลุคราชินีหิมะ Vs ราชินีอันนา แห่งเอเรนเดลล์


Frozen 2 ปล่อยภาพเซ็ตใหม่เพื่อเรียกกระแสคนดูหลังจากที่หนังพุ่งทะยานสู่หลักพันล้านเหรียญสหรัฐฯและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม โดยภาพที่ปล่อยออกมาคือเอลซ่าในชุดสีขาว หรือ ชุดราชินีหิมะในตอนท้ายเรื่อง รวมถึงชุดของอันนาในลุคของราชินีแห่งเอเรนเดลล์รวมถึงมีภาพเต้นรำคู่กับคริสตอฟ ในชุดของเจ้าชายด้วย

ทำไมเอลซ่าถึงเกิดมาพร้อมกับพลังวิเศษ? คำตอบกำลังเรียกหาเธอและกำลังคุกคามอาณาจักรของเธอ เธอจึงเริ่มการเดินทางสุดอันตรายแต่แฝงไว้ด้วยความน่าพิศวง ไปกับ อันนา, คริสตอฟฟ์, โอลาฟ และสเฟน ใน “โฟรเซ่น – ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ” จากทีมผู้สร้างเจ้าของรางวัลออสการ์ – ผู้กำกับ เจนนิเฟอร์ ลี และคริส บัค ผู้อำนวยการสร้าง ปีเตอร์ เดล เวโค่ และผู้เขียนเพลง คริสเทน แอนเดอร์สัน-โลเปซ และโรเบิร์ต โลเปซ และนักแสดงผู้ให้เสียงพากย์ อิดิน่า เมนเซล คริสเทน เบลล์ โจนาธาน กรอฟฟ์, และ จอช แกด “โฟรเซ่น 2 – ผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ” จากวอลท์ ดิสนีย์ แอนิเมชั่น สตูดิโอส์ 

บันเทิงต่อที่นี่ >> หนังออนไลน์ 
 

หนังออนไลน์ : แฟนหนังแห่ต้อนรับล้นหลาม ในงานโปรโมท Wonder Woman 1984


ทำเอาผู้กำกับฯ แพ็ตตี้ เจนกินส์ (Patty Jenkins) และนักแสดงตัวแม่อย่าง กัล กาโดท (Gal Gadot) ยิ้มแก้มปริเลยทีเดียว เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งสองได้เดินทางไปร่วมงาน 2019 Comic Con

Experience (CCXP) ที่จัดขึ้น ณ เมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล เพื่อโปรโมทภาพยนตร์เรื่อง Wonder Woman 1984 ซึ่งงานนี้ได้รับการต้อนรับจากแฟน ๆ ที่มาร่วมงานอย่างล้นหลาม และอบอุ่นเลยทีเดียว

onder Woman 1984 กำกับฯโดย แพ็ตตี้ เจนกินส์ นำแสดงโดย กัล กาโดท (ไดอาน่า ปริ้นซ์) ซึ่งกลับมาพร้อมนักแสดงทั้งจากภาคแรก และมีมาเสริมทัพอีกคับคั่ง อาทิ คริส ไพน์ (สตีฟ เทรเวอร์), คอนนี่ นีลเซน, โรบิน ไรท์, คริสเตน วิก (ชีต้า), เพโดร ปาสคาล (แม็กซ์ ลอร์ด), นาตาชา รอธเวลล์ เป็นต้น

ครั้งนี้จะพา "ไดอาน่า ปริ้นซ์" ไปสู่ช่วงเวลาหลายปีหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังภาคแรกในตอนนี้เจ้าหญิงแห่งอเมซอนผู้ไม่ย่อท้อจะต้องไปเผชิญหน้ากับ "ชีต้า" ในช่วงระหว่างสงครามเย็นยุค 80

Wonder Woman 1984 เข้าฉาย 4 มิถุนายน 2563 ในโรงภาพยนตร์

บันเทิงต่อที่นี่ >> หนังออนไลน์
 

หนังออนไลน์ : ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจาก “คำลวง” ที่เกิดขึ้นจริง The Farewell : กอดสุท้าย คุณยายที่รัก


สำหรับภาพยนตร์ที่ฉากถ่ายทำนั้นอยู่แค่ในห้องแคบๆ และฉากในฮอลล์ใหญ่เพียงฉากเดียวเท่านั้น แต่กับภาพยนตร์เรื่อง The Farewell ได้สร้างงานภาพที่แข็งแรงและบรรยากาศที่โดดเด่น ภาพที่เกิดขึ้นเป็นภาพที่ชัดเจนที่อยู่ในหัวของลูลู่หวังตั้งแต่เริ่มแรกในการใส่ถ้อยคำลงไปในบทภาพยนตร์ “ฉันรู้ตั้งแต่แต่แรกว่าโทนหนังของฉันนั้นจะสามารถสำเร็จได้ด้วยการใช้แสงไฟ” เธอกล่าว “ฉันรู้ว่าฉันอยากใช้ไฟฟลูออเรสเซ้นส์ ที่มีกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปในจีน มันเป็นแสงไฟที่ไม่ได้ทำให้เราสบายใจ แล้วบ้านส่วนใหญ่ก็ใช้หลอดไฟแบบนี้ เพราะหลอดไฟแบบนี้เป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวย มันไม่มีหลอดไฟแบบสลัวๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความโรแมนติกเลยสักที่ในประเทศนี้

หลอดไฟได้กลายมาเป็นการถ่ายทอดความหมายของภาพยนตร์เมื่อแสงของมันแสดงให้เห็นถึงความหนาวและความกระอักกระอ่วน แต่กลายเป็นว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวนั้นสามารถเอาชนะความเยือกเย็นให้กลายมาเป็นความอบอุ่นและความผูกพันอันใกล้ชิดได้ “ความย้อนแย้งในสีภาพและความสัมพันธ์ในเรื่องราวคือความแตกต่างที่ฉันชอบและอยากเอามันมาเล่า”

ภาพยนตร์ที่สร้างเสียฮือฮาให้กับเทศกาลภาพยนตร์ Sundance ที่ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม
The Farewell สร้างและจัดจำหน่ายโดยค่ายภาพยนตร์ A24 (Hereditary, Moonlight) ที่พูดถึงความสัมพันธ์ของคนอเมริกันเชื้อสายจีน และมุมมองที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เรื่องราวเกี่ยวกับบิลลี่ นักเขียนสาวอเมริกันเชื้อสายจีน ที่ได้ทราบข่าวจากพ่อแม่ของเธอว่า ย่าของเธอที่อยู่ที่จีนนั้นป่วยเป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายและมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ครอบครัวจึงจัดงานเลี้ยงรวมญาติขึ้น โดยที่ทุกคนต่างปิดความลับไม่ให้ย่าได้ล่วงรู้ถึงอาการของตน บิลลี่ที่ไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรม กำลังจะได้เรียนรู้วิถีชีวิต ความสัมพันธ์ ความต่างระหว่างโลกตะวันตก โลกตะวันออก และความหมายที่แท้จริงของคำว่า ครอบครัว

ผลงานการกำกับของ Lulu Wang ถ่ายทอดประสบการณ์จริงของชีวิตผ่านงานภาพยนตร์ ร่วมด้วยนักแสดงอย่าง Awkwafina จาก Crazy Rich Asians

The Farewell กอดสุดท้ายคุณยายที่รัก เข้าฉาย 19 ธันวาคม ในโรงภาพยนตร์

บันเทิงต่อที่นี่ >> หนังออนไลน์
 

หนังออนไลน์ : กรี๊ดลั่นโรงแตก เทรนลุงกำลังมา คอนเฟิร์ม 100% ในเสี่ยงนักรักมั้ยลุง?


 ท้ายปีแบบนี้ หากได้ภาพยนตร์ฟีลกู๊ดมาเติมพลังใจมันย่อมเป็นสิ่งดี ๆ มาช่วยเสริมก้าวใหม่ให้กับปีข้างหน้าที่กำลังจะมาถึง และในระยะนี้ก็มีภาพยนตร์หนึ่งเรื่องที่น่าสนใจ นั่นคือ ฮาร์ทบีท เสี่ยงนักรักมั้ยลุง ภาพยนตร์ที่จะพาเราไปฟินกับเรื่องราวความรักต่างวัยที่จะชวนให้ฟินจิกเบาะ กับการกลับมาทวงบัลลังก์ความหล่อทะลุแป้งของพี่เคน ธีรเดช ซึ่งล่าสุดได้มีผู้ชมบางส่วนได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว และทุกคนก็ออกมาคอนเฟิร์มตรงกันว่าตอนนี้เทรนลุงกำลังมา! เพราะเสน่ห์ของพี่เคนทะลุฝ่าทุกความหนาวมาเกาะกุมทุกหัวใจ พวกเขาว่าอย่างไรบ้างไปดูกัน



เรื่องย่อ

เมื่อ "ชัย" (เคน ธีรเดช) อยากออกจากโลกใบเดิม และระหว่างทางดันเจอ "น้ำหวาน" (พรอยมน มนสภรณ์) สาวน้อยต่างวัยเปรียบเสมือนอยู่โลกใบใหม่ เข้ามาปั่นและป่วนหัวใจผู้ชายนิสัยลุงๆ กับความรักครั้งนี้..ระวังหัวใจให้ดี อาจมีเต้นผิดจังหวะ

ภาพยนตร์รักที่จะทำ ให้คุณกล้าเสี่ยงเพื่อคนที่คุณรัก ปลายปีนี้เตรียมเช็คสถานะหัวใจ พร้อม “เสี่ยง” ไปกับโลกใบใหม่ แม้ต่างวัยแต่หัวใจมันเรียกร้อง ปักมุดรอ

"พี่เคน" Comeback!! กับภาพยนตร์รักหน้าหนาวว้าวใจ พี่เคนจะพาสาวๆ ไป "เสี่ยง" กับโลกใบใหม่ ในแบบที่คุณอยากดู และไม่เคยเห็น เตรียมเช็คสถานะหัวใจให้ดี 12 ธันวาคมนี้ ถ้ากล้า "เสี่ยง" เราจะไม่ "โสด"

บันเทิงต่อที่นี่ >> หนังออนไลน์ 
 

หนังออนไลน์ : วิน ดีเซล ออกมามายืนยันแล้วว่า มกราคม 2020 Fast 9 มาแน่!


หลังจากที่ถ่ายทำเสร็จไปได้ซักระยะหนึ่งแล้ว ในที่สุดวันนี้ Fast 9 ก็เตรียมปล่อยตัวอย่างแรกออกมายั่วแฟนๆกันแล้ว โดยข่าวนี้ไม่ใช่ข่าวลือแน่นอน เพราะมันเป็นการยืนยันโดยนักแสดงหลักผู้เป็นคนบุกเบิกเฟรนไชส์นี้ด้วยตนเองมาตั้งแต่ภาคแรกอย่าง วิน ดีเซล (Vin Diesel) จากบทเซียนนักซิ่งรถ Dominic “Dom” Toretto โดยเขาได้ออกมาเปิดเผยว่า ตัวอย่างแรกของ Fast 9 จะมาในเดือน มกราคม 2020 ที่จะถึงนี้!! และจะมีการเปิดเผยวันที่แน่ชัดให้เราลุ้นกันตรงๆเลยภายในกลางเดือนนี้(ธันวาคม) อย่างแน่อน!

จากอินสตาแกรม vindiesel ได้โพสต์รูปพร้อมแคปชั่นว่า


“ตัวอย่าง Fast 9 จะถูกปล่อยออกมาเดือนหน้า....วันที่แน่นอนจะประกาศอีกทีในวันที่ 18 เดือนนี้ครับ(ธันวาคม). ว้าว. ทุกคนต่างตื่นเต้นที่พวกคุณทั้งหมดจะได้เห็นมัน!!!. และนี่คือ 1 ในภาพปกจากหนังครับ (Fridays’ICON)”

ที่น่าสนใจคือในตัวอย่างแรกนี้จะปล่อยของออกมายั่วแฟนๆมากขนาดไหน และเราจะได้เห็นฉากในประเทศไทยหรือไม่ ต้องรอลุ้นกันนะ...

Fast & Furious 9 วางแผนเข้าฉาย 21 พฤษภาคม 2020 ในโรงภาพยนตร์

บันเทิงต่อที่นี่ >> หนังออนไลน์


หนังออนไลน์ : DC Entertainment เตรียมขยายโลกของไดอาน่าให้ใหญ่ขึ้น


หลังจากที่ได้ปล่อยตัวอย่างแรกของ Wonder Woman 1984 หนังเรื่องล่าสุดแห่งจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ DC ที่กำลังจะมาถึงเรื่องถัดไป ที่มาพร้อมกับความแปลกใหม่จนทำให้ได้รับกระแสตอบรับจากแฟนๆทั่วโลกไปทางด้านดีและน่าสนใจ ในวันนี้เราก็มีข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับจักรวาล DC มาเปิดเผยให้แฟนๆรู้สึกตื่นเต้นกันเพิ่มมากขึ้นด้วย

มีการรายงานว่าค่าย DC Entertainment กำลังมองหาเส้นทางเพื่อที่จะขยายโลกของไดอาน่าให้ใหญ่ขึ้น โดยมีการพูดถึงการสร้างหนังภาคแยก (Spin-off) ที่จะมุ่งเน้นไปที่เรื่องราวบ้านเกิดของเธอ กับเรื่องราวของชาวอเมซอนบนเกาะทีมีสกีร่า (Themyscira)  โดยข่าวนี้มีการยืนยันว่าผู้กำกับสาว Wonder Woman ทั้ง 2 ภาคอย่าง Patty Jenkins ได้ออกมายืนยันด้วยตนเองว่าทางค่ายกำลังพัฒนาหนังที่จะเล่าเรื่องราวของชาวอเมซอนอยู่จริง แต่เธอเองจะไม่ใช่ผู้กำกับ แต่เธอจะยังนั่งแท่นผู้อำนวยการสร้าง คอยดูแลภาพรวมอยู่

จริงๆแล้วข่าวนี้อาจไม่ค่อยเซอร์ไพรส์แฟนๆมากเท่าไหร่ เพราะก่อนหน้านี้จากความประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของ Aquaman ค่าย Warners ก็ได้เริ่มพัฒนาโปรเจ็คหนัง Spin-Off ทันที ที่จะเป็นหนังแนวสยองขวัญ เกี่ยวกับเผ่า The Trench ใต้มหาสมุทร. ส่วน Wonder Woman ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากทั้งด้านเสียงวิจารณ์ กระแสความต้องการของแฟนคลับ และรายได้มหาศาลมาตั้งแต่ภาคแรกอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงไม่แปลกที่ทางค่ายเล็งเห็นว่าควรจะขยายเรื่องราวในจุดนี้
นอกจากนี้ Patty Jenkins ยังพูดถึงการกลับมาของตัวละคร Steve Trevor (รับบทโดย Chris Pine) ในภาคที่ 2 นี้ด้วยว่า

“ฉันบอกคุณไม่ได้หรอก(ว่าเขากลับมายังไง) แต่สิ่งที่ฉันจะบอกได้ก็คือ: เราไม่ใช่แค่ใส่ Steve Trevor เข้ามาในหนังเพียงแค่เพราะเราอยากจะใส่เขาเข้ามาในหนังเรื่องนี้. ในตอนที่เราคิดเรื่องราวของหนังภาคนี้ในตอนที่เราทำภาคแรก มันมีช่วงเวลาที่ปิ๊งไอเดียขึ้นมาและมันจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยหากไม่ใช่ Chis Pine รับบท Steve Trevor.ดังนั้นฉันจะสัญญากับคุณว่ามันไม่ใช่กิมมิค แต่มันคือสิ่งที่จะเติมเต็มให้กับเนื้อเรื่อง มันเป็นสิ่งสำคัญที่น่าอัศจรรย์มากที่เราได้เขามาและเราก็สุดจะเอ็นจอยกับมันเลย. ดังนั้นการที่ Chris กลับมามันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก แถมมันยังส่งผลสำคัญต่อเรื่องราวด้วย ซึ่งเราแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะให้คุณได้ดูมันแล้ว”

Wonder Woman 1984 เข้าฉาย 4 มิถุนายน 2020 ในโรงภาพยนตร์

บันเทิงต่อที่นี่ >> หนังออนไลน์ 
 

ดูหนัง : เรย์และไคโลเรน ฟาดไลท์เซเบอร์ใส่คืออะไรใน Star Wars 9


1 ในฉากที่น่าสนใจและมีการพูดถึงเป็นอย่างมากในตัวอย่างล่าสุดของ Star Wars: The Rise of Skywalker คือฉากที่ เรย์ และ ไคโลเรน ได้ใช้ไลท์เซเบอร์ของตนเองฟาดฟันลงไปบนวัตถุบางอย่างจนแตกกระจาย แต่เราก็ไม่ได้เห็นอย่างชัดเจนว่ามันเป็นฉากต่อสู้กันหรือร่วมมือกันทำลายสิ่งของบางอย่างกันแน่ และสิ่งของที่ว่านั้นคืออะไร ในวันนี้ก็มีการเฉลยอย่างเป็นทางการแล้ว และมันก็เป็นตามที่แฟนๆส่วนใหญ่คิด เพราะสิ่งๆนั้นคือ หมวกของ ดาร์ธ เวเดอร์ ที่ ไคโลเรน เก็บเอาไว้นั่นเอง!

จากบัญชีอย่างเป็นทางการของ Star Wars ได้มีการเผยภาพโปสเตอร์อาร์ทฉบับใหม่ของ Star Wars: The Rise of Skywalker ที่กำลังจะเข้าฉาย เพื่อโปรโมทหนังภาคที่ 9 แห่งเฟรนไชส์ที่จะปิดฉากตำนาน Star Wars ยุคแรกลงอย่างสมบูรณ์ โดยสิ่งที่น่าสนใจคือ ในภาพนี้เป็นภาพของ 2 ตัวละครหลักต่างฝ่ายอย่าง เรย์ และ ไคโล เรน (เบน โซโล) ฟาดฟันดาบไลท์เซเบอร์ของตนลงบนหมวกของวายร้ายผู้เป็นตำนานแห่ง Star Wars อย่าง ดาร์ธเวเดอร์ (Darth Vader)


ภาพนี้ถูกโพสต์ลงอย่างเป็นทางการบนอินสตาแกรมออฟฟิเชี่ยลพร้อมแคปชั่นว่า
“นี่คือโปสเตอร์ใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนัง Star Wars: The Rise of Skywalker โดยมันเป็นงานศิลปะของ @skinnercreative”

ยังไม่เป็นที่ยืนยันแน่ชัดว่าการกระทำนี้ของทั้งคู่คืออะไร มีความหมายอะไรหรือไม่ จะเป็นการร่วมมือกันจริงหรือเปล่า? แล้วหากเป็นการร่วมมือกัน จะเป็นการร่วมมือกันแบบไหน ไคโลเรนกลับใจมากเป็นฝ่ายดี หรือเรย์โดนความมืดครอบงำกลายเป็น ดาร์คเรย์ เหมือนที่เราเคยเห็นในตัวอย่าง จนไปอยู่กับไคโลเรนหรือไม่? คำตอบมีเพียงหนึ่งเดียวอยู่ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น!

Star Wars: The Rise of Skywalker เข้าฉาย 19 ธันวาคม ในโรงภาพยนตร์

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูหนัง
 

ดูหนัง : บริษัทกำจัดผี Ghostbusters 3 Afterlife กลับมาแล้วหลังจากทิ้งห่างไปกว่า 30 ปี!


ปล่อยออกมาแล้วกับตัวอย่างแรก Ghostbusters: Afterlife ภาคต่อเฟรนไชส์หนังแฟนตาซีสุดมันส์ในตำนาน ที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ บริษัทกำจัดผี ที่ภาคนี้จะเป็นภาคต่อภาคที่ 3 โดยตรงต่อจาก 2 ภาคดั้งเดิมอย่าง Ghostbusters ภาคแรกปี 1984 และ Ghostbusters II ภาคที่ 2 ในปี 1989 ซึ่งเป็นการทิ้งช่วงห่างยาวนานกว่า 30 ปีเลยทีเดียว! (จะไม่เกี่ยวข้องกับ Ghostbusters รีเมคเมื่อปี 2016 ที่เป็นการรวมทีมนักแสดงนำหญิง)

Ghostbusters: Afterlife จะเป็นเรื่องราวของแม่เลี้ยงเดี่ยว Callie (รับบทโดย Carrie Coon) ที่ต้องเลี้ยงดูลูกสองคน 1.ลูกสาวผู้หมกมุ่นกับวิทยาศาสตร์ (รับบทโดย Mckenna Grace) และ 2.ลูกชายผู้ชื่นชอบอุปกรณ์เทคโนโลยีเครื่องจักรกล (รับบทโดย Finn Wolfhard) นอกจากนี้หนังยังได้ Paul Rudd นักแสดงชายชื่อดังที่เรารู้จักกันดีในบทซูเปอร์ฮีโร่ Antman แห่ง MCU มาร่วมรับบทเป็นอาจารย์โรงเรียนรู้รอบรู้อย่าง Mr.Grooberson อีกด้วย


ครอบครัวสามแม่ลูกได้เดินทางย้ายบ้านมาอยู่ในเมืองเล็กๆ ณ Oklahoma หลังจากที่ผู้เป็นแม่ได้รับมรดกตกทอดมาจากพ่อของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าพ่อของเธอคือใคร. เมื่อพวกเขาได้มาถึงพวกเขาก็เริ่มค้นพบความเกี่ยวข้องกับเหล่า Ghostbusters รุ่นดั้งเดิม. Trevor และ Phoebe เริ่มรู้ว่าคุณปู่ของพวกเขาเคยเป็นใครและพวกเขาก็พร้อมที่จะสานต่องานของคุณปู่ให้สำเร็จ เมื่อเหล่าผีใต้เมืองกำลังจะตื่นขึ้นมาอาละวาดอีกครั้ง!

Ghostbusters: Afterlife กำกับโดย Jason Reitman นำแสดงโดย Carrie Coon, Mckenna Grace, Finn Wolfhard, Paul Rudd และสมทบด้วย Oliver Cooper, Bokeem Woodbine นอกจากนี้ยังยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า นักแสดงชุดเดิมทีมนักล่าผีรุ่นปู่จะกลับมามีบทบาทในภาคนี้ด้วยทั้ง Bill Murray, Dan Aykroyd, Ernie Hudson, Sigourney Weaver และ Annie Potts

เรื่องราวพิศวง+ความแฟนตาซีนี้จะน่าสนใจขนาดไหน เมื่อหนังในตำนานถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งในยุคใหม่นี้ ต้องรอติดตามกันในโรงภาพยนตร์

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูหนัง
 


ดูหนัง : ไม่ต้องคาดเดาเลยว่าใครจะเป็นคนฆ่าคุณปู่ Knives Out ฆาตกรรมบันเทิง หลอกล่อซ่อนเงื่อน เคมีนักแสดงจัดจ้านทั้งทีม!


  ไม่บ่อยนักที่โรงภาพยนตร์จะมีภาพยนตร์สืบสวนสอบสวนที่มุ่งเน้นไปที่การหาคำตอบว่าในหมู่คนกลุ่มนี้ ใครคือฆาตกร? และในสัปดาห์นี้ก็เป็นคิวของภาพยนตร์เรื่อง Knives Out ภาพยนตร์จากฝีมือการกำกับสุดจัดจ้านของไรอัน จอห์นสัน ที่เคยฝากผลงานสุดลือลั่นไว้ใน Star Wars: The Last Jedi นำแสดงโดยแดเนียล เคร็ก, คริส อีแวนส์, เจมี ลี เคอร์ติส,อนา เดอ อาร์มาส, ไมเคิล แชนนอน, โทนิ คอนเล็ตต์, คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์,ดอน จอห์นสัน, แคทเธอรีน แลงก์ฟอร์ด และหนุ่มน้อยเจเดน มาร์เทล แค่รายชื่อนักแสดงนำก็แทบจะเป็นการตีหัวเข้าบ้านแล้ว แต่ขอบอกเลยว่าเนื้อเรื่องและชั้นเชิงการนำเสนอมันยิ่งกว่านี้

 ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่เขียนบทขึ้นมาด้วยฝีมือของไรอัน จอห์นสันผู้กำกับ โดยไม่ได้ดัดแปลงจากนวนิยายสืบสวนสอบสวนเรื่องไหน แต่ได้รับแรงบันดาลใจการดำเนินเรื่องมาจากนวนิยายของราชินีแห่งนวนิยายอาชญากรรม อกาธา คริสตี้ ผู้เขียนนวนิยายที่ได้กลายเป็นภาพยนตร์ไปเมื่อ 2 ปีก่อนกับ Murder on the Orient Express กับเรื่องราวแนว WhoDunIt ที่สร้างความเซอร์ไพร์สให้กับตอนจบเมื่อเฉลยเรื่องราวทั้งหมดออกมา แต่หากคิดว่า Knives Out จะเดินรอยตามแนวทางนั้นเป๊ะ ๆ ล่ะก็...คุณคิดผิด

 Knives Out ใช้สไตล์การเป็นภาพยนตร์สืบสวนสอบสวนมาล่อหลอกผู้ชมอย่างเราตลอดทั้งเรื่อง คอยหยอดคำใบ้ หยอดจุดสังเกตุเข้ามาเรื่อย ๆ ชวนให้เราคาดเดาคนร้ายไปต่าง ๆ นา ๆ พอถึงจุดที่เรามั่นใจว่าใครคือคนร้าย หนังก็เลี้ยวหักศอกเราไปอีกทาง แล้วหยอดคำใบ้ใหม่ ๆ เข้ามาให้เราเดากันต่อ ก่อนจะดัดหลังเราอีกครั้งแล้วไปเข้าสู่บทสรุปของเรื่องที่เมื่อเปิดเผยเหตุผลทั้งหมดแล้วก็ช่วยสนับสนุนเนื้อเรื่องที่ปูเอาไว้ตั้งแต่เริ่มเรื่องได้อย่างสมบูรณ์

สิ่งที่โดดเด่นรองลงมาจากเทคนิคการเล่าเรื่องของไรอัน จอห์นสันแล้วก็คือ บรรดานักแสดงที่เรียกได้เต็มปากว่าเป็นการรวมดาวเอาไว้อย่างคับคั่ง แถมเคมีการแสดงของแต่ละคนก็เข้าขากันได้เป็นอย่างดี เริ่มต้นกันที่คนที่เป็นกระแสที่สุดกันก่อน นั่นคือ คริส อีแวนส์ ที่พลิกลุคสุดขั้วจากการเป็นกัปตันอเมริกาผู้แสนสุภาพ กลายเป็นหนุ่มหล่อปากสุนัขที่แม้จะปรากฎตัวมากลางเรื่องแล้วแต่ก็สามารถสร้างสีสันให้กับเรื่องได้จนจบ อีกหนึ่งคนที่น่าสนใจก็คือเจมี่ ลี เคอร์ติส กับบทลินดา ลูกสาวคนโตของฮาร์แลนด์ การแสดงของเธอในเรื่องนี้ก็โดดเด่นไม่แพ้ใคร และสุดท้ายคืออนา เดอ อาร์มาส ที่รับบทเป็นมาร์ทา พยาบาลสาวคนสนิทของฮาร์แลนด์ เราอยากให้ทุกคนจับตามองเธอคนนี้เป็นพิเศษ เพราะเธอคือนักแสดงหน้าใหม่ที่น่าจับตามองเลยทีเดียว

สุดท้ายนี้ Knives Out อาจจะไม่ใช่ภาพยนตร์แนวสืบสวนสอบสวนที่มีฉากหรือเทคนิคพิเศษอะไรอลังการนัก แต่นี่คือภาพยนตร์ที่เชือดเฉือน หลอกล่อด้วยบทสนทนา แต่ความสนุกของภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ใครเป็นคนฆ่าฮาร์แลนด์ ทรอมบีย์ แต่มันอยู่ที่การเชื้อชวนให้ติดตามของภาพยนตร์ว่ามันจะสามารถเดินไปในทิศทางไหนต่อไปได้อีก กับเรื่องราวความสัมพันธ์ภายในตระกูลอันแสนร่ำรวยนี้ว่าอะไรที่เป็นสาเหตุให้เกิดคดีฆาตกรรมคุณปู่ของครอบครัวได้ คำตอบทั้งหมดรอให้เราไปค้นหาแล้วใน ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่ ฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูหนัง
 


ดูหนัง : โปรเจคใหญ่มากของ พชร์ อานนท์ แน็ก ชาลี ประกบคู่ แพนเค้ก ใน พจมาร์ สว่างคาตา


พชร์ อานนท์ ผู้กำกับหนังร้อยล้านได้เผยชื่อโปรเจคหนังใหม่ เรื่อง พจมาร์ สว่างคาตา หนังไทยสุดฮาแห่งปี 2020 ซึ่งได้ แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ ประกบคู่กับ แพนเค้ก เขมนิจ โดยหนังมีแผนวางฉายในวันที่19 มีนาคมนี้ โดยโปรเจคนี้ยังได้ จาตุรงค์ มกจ๊ก และโก๊ะตี๋กลับมาร่วมสร้างสีสันให้เรื่องราวครั้งนี้ด้วย จะเป็นยังไงต้องคอยติดตามชม

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูหนัง

ดูหนัง : รีวิว หนังรักเติมพลังใจส่งท้ายปี Last Christmas


คำว่า Last Christmas หลายคนคงจะนึกไปถึงเพลงอันแสนโด่งดังที่มักจะถูกเปิดขึ้นมาทุกครั้งเมื่อเทศกาลแห่งความสุขนี้เวียนมาบรรจบอีกครั้ง เพลงที่ขับร้องโดยวงดนตรี Wham! และมันได้ถูกนำมาตีความหมายใหม่จนกลายเป็นภาพยนตร์เรื่อง Last Christmas ภาพยนตร์ที่จ่าหน้าว่าเป็นภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ ที่ดึงเอาทั้งเอมิเลีย คลาร์ก จาก Me Before You, เฮนรี โกลด์ดิ้ง จาก Crazy Rich Asians, มิเชล โหย่ว และเอมม่า ทอมป์สันมาร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน และเราขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าหนังเรื่องนี้หลอกเราเสียอยู่หมัด เพราะนี่ไม่ใช่ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้เสียทีเดียว แต่ใจความหลักของเรื่องเป็นการก้าวผ่านวัย เพื่อเติบโตไปอีกขั้น หรือแนว Coming of Age

Last Christmas เป็นเรื่องราวของ เคท หญิงสาวผู้มีอาชีพเป็นพนักงานร้านขายของวันคริสต์มาส ที่มีเจ้าของเป็นหญิงชาวจีนที่ใช้ชื่อว่า ซานต้า เธอมีความฝันที่จะเป็นนักร้องและยังคงไปออดิชั่นอยู่เสมอ ๆ แต่เธอก็ไม่ได้สมหวังดั่งใจ แถมชีวิตครอบครัว ชีวิตรัก ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนก็ดิ่งลงเหวชนิดที่เธอเดินไปถึงจุดที่ไม่สนใจใยดีอะไรกับสิ่งใด ๆ รอบตัวอีกแล้ว แต่ตอนนั้น ทอม เว็บส์เตอร์ ชายหนุ่มรูปงามก็ได้ก้าวเข้ามาในชีวิตของเคท

เขาพาเธอไปเดินเล่นและคอยชี้ชวนให้เธอมองขึ้นไปข้างบนเสมอ ๆ ทั้งคู่ดูจะมีเคมีที่เข้ากันได้ดี แต่ติดอยู่อย่างเดียวที่ทอมมักจะไป ๆ มา ๆ แถมยังไม่มีโทรศัพท์ติดตัวอีกต่างหาก ถึงจะเป็นอย่างนั้นพ่อหนุ่มคนนี้ก็ดูเหมือนจะมาปรากฎตัวได้ถูกที่ถูกเวลาเสมอ เขาปรากฎตัวมาเยียวยาจิตใจของเคทได้ทุกครั้ง จนถึงจุดที่เคทเริ่มอยากจะเห็นตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้นและตัดสินใจเปิดใจคบกับทอมเสียที ตอนนั้นเธอจึงได้รู้ความจริงที่ได้เปลี่ยนชีวิตของเธอจนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

อ่านเรื่องย่อข้างต้นแล้วดูเป็นหนังรอมคอมสำเร็จรูปที่จะต้องมาเรียกน้ำตา แถมยังดูออกจะน้ำเน่าหน่อย ๆ แล้วมันจะไปเป็นหนัง Coming of Age ได้ยังไง?? พวกคุณคงคิดประมาณนี้ใช่ไหม? แต่ขอบอกเลยว่านี่เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสมจะรับชมในช่วงวันหยุดเทศกาลพร้อมกับครอบครัวจริง ๆ เรื่องราวของคน ๆ หนึ่งที่สูญเสียตัวตน พยายามค้นหาความหมายของชีวิต ต้องเผชิญหน้ากับความผิดพลาดที่ตัวเองก่อ และค่อย ๆ ประกอบชิ้นส่วนทั้งหมดขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งชีวิต, การงาน, ความรัก, ครอบครัว และตัวตน โดยมีที่พึ่งทางใจคอยอยู่ข้าง ๆ และคน ๆ นั้นก็คือพ่อหนุ่มทอมคนนี้นั่นเอง

สิ่งหนึ่งที่หนังพยายามหลอกล่อเราตลอดทั้งเรื่องเลยก็คือ ตัวตนของทอม เว็บสเตอร์ นี่ล่ะ หนังชี้ชวนเราให้เดาไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าเขาเป็นใครกันแน่? เขาเป็นลูกชายของซานต้าที่ถูกส่งมาเพราะเป็นห่วงเธอในฐานะลูกน้อง หรือจริง ๆ แล้วเขานี่ล่ะซานตาคลอสตัวจริงที่มาช่วยชีวิตเคท หรือเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปที่บังเอิญสมบูรณ์แบบ หรือเขาไม่มีตัวตนอยู่จริง ๆ นับเป็นหนึ่งในปริศนาที่ภาพยนตร์ทิ้งเอาไว้ให้เราคาใจไปพร้อม ๆ กับเสน่ห์ของเฮนรี โกลด์ดิ้ง และเรื่องราวบันเทิงอันแสนน่ารักตลอดทั้งเรื่อง

ในส่วนของการแสดงคงเป็นเรื่องที่จะหลงลืมไปไม่ได้เลย เอมิเลีย คลาร์ก เปล่งประกาย โปรยเสน่ห์ความน่ารักให้อบอวลไปทั่วทั้งเรื่อง เราจะได้เห็นความโก๊ะกังของเธอที่ทำตัวเปิ่น ๆ เด๋อ ๆ แต่น่ารักน่าหยิก เคมีของเธอกับมิเชล โหย่วเองก็ลงตัวเสียเหลือเกิน หลายฉากที่สองคนนี้เข้าคู่กันต้องขอบอกเลยว่าเป็นการเรียกเสียงฮาได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ แถมตัวเอ็มม่า ทอมป์สัน ที่มารับบท เพตรา แม่ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าของเคท เธอก็เล่นได้สมตัว และช่วยขับประเด็นย่อยของเรื่องได้หนักแน่นมากกว่าเดิม

นอกจากเราจะได้เห็นตัวละคร เคท เติบโตไปตลอดทั้งเรื่องแล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่หนังใส่เข้ามาได้อย่างร่วมสมัยกับสภาพสังคมประเทศอังกฤษในปัจจุบัน นั่นคือ ประเด็นปัญหาของผู้อพยพ และ Brexit ซึ่งตัวละครนำทั้งเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ล้วนเป็นกลุ่มคนที่ถูกผลักให้เป็นชายขอบของสังคมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวผู้อพยพ, กลุ่มคนรักร่วมเพศ, ชาวเอเชียที่มาลงหลักปักฐานในอังกฤษ หรือกลุ่มคนไร้บ้าน ทั้งหมดนั่นทำให้นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่หนังรอมคอมดาษ ๆ ทั่วไป แต่กลายเป็นหนังที่มีประเด็นทางสังคมและนำเสนอความเท่าเทียมออกมาได้อย่างแนบเนียน

แน่นอนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์สำหรับเทศกาลคริสต์มาส ดังนั้นมันจึงทำหน้าที่เป็นภาพยนตร์อันแสนอบอุ่น ชวนสร้างรอยยิ้ม พร้อมกับบทสรุปอันแสนอบอุ่นหัวใจ และช่วยเตือนสติเราได้พอสมควร เหมาะกับเทศกาลแห่งความสุขที่ครอบครัวมักจะกลับมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เฉลิมฉลอง เพื่อเตรียมตัวที่จะก้าวต่อไปในปีข้างหน้าที่จะมาถึง เป็นตัวเองและหมั่นมองไปข้างบนเสมอ

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูหนัง
 

ดูหนัง : แจ็ค แบล็ค เตรียมอำลาวงการ เปรยว่า Jumanji: The Next Level อาจเป็นหนังเรื่องสุดท้าย


  ย้อนกลับไปใน Jumanji: Welcome to the Jungle หนึ่งในตัวละครที่สร้างสีสันไม่แพ้ใครในทีมนักแสดงนำเลยก็คือ แจ็ค แบล็ค ที่มารับบทเป็นเบธานี สาวใสไร้สติไว้มัธยมปลายที่บังเอิญหลุดเข้าไปในเกมมหัศจรรย์ แค่คิดภาพคุณลุงตุ้ยนุ้ยที่ต้องมาแสดงเป็นเด็กหญิงไฮสคูล แค่นี้ก็ฮาแล้ว และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนั้น โดยในตอนนี้เขากำลังจะกลับมาอีกครั้งกับบทบาทที่เปลี่ยนไป ใน Jumanji: The Next Level แต่ดูเหมือนว่านี่จะเป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของเขาแล้ว

 แจ็ค แบล็ค ได้พูดคุยกับเว็บไซต์ Balance เอาไว้ว่า... “จริง ๆ ผมก็อยากจะทำเพลงกับวง Tenacious D อยู่อีกสักครั้งนะครับ ไม่แน่ก็อาจจะมีหนังอีกเรื่อง ผมเป็นพวกที่มีความสุขกับการเกษียณก่อนกำหนด แต่ก็ไม่ได้เร็วขนาดนั้น ตอนนี้ผมอายุ 50 ปีแล้ว ผมพูดมานานมากว่านี่จะเป็นหนังเรื่องสุดท้ายแล้ว

...เราต้องมารอดูกัน ผมบอกไม่ได้หรอกครับว่าในอนาคตมันจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกเพราะมันยังเร็วเกินไป ผมมีแผนอยู่นิดหน่อยกับอนาคตของผม แต่มันก็ไม่ได้มากขนาดนั้น ผมกำลังมองไปที่การสรุปรวมทุกอย่างในเร็ว ๆ นี้ แล้วก็ขี่ม้าเข้าไปสู่ตะวันตกดิน”

 ประเด็นเรื่องการเกษียณก่อนกำหนด นับเป็นเรื่องที่คนรุ่นใหม่มักจะหยิบมาคิดกันมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่แตกต่างจากคนรุ่นก่อนที่จะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเก็บเกี่ยวความสำเร็จ และไปใช้ความสำเร็จนั้นในช่วงบั้นปลาย ในขณะที่คนยุคนี้เมื่อถึงจุดที่ชีวิตพร้อมแล้วเขาก็อยากจะเกษียณไปเพื่อใช้ชีวิตอย่างที่อยากทำ ก็ต้องมารอดูกันว่า แจ็ค แบล็ค จะเลือกทางเดินชีวิตไหนให้กับตัวเองต่อไป

เตรียมพบกับการกลับมาอีกครั้งของพวกเขา ใน Jumanji: The Next Level ในด่านที่โหดหินกว่าเดิม, อันตรายกว่าเดิม และคราวนี้ไม่ใช่พวกเขาทุกคนที่จะรอดชีวิตกลับไปด้วย ตอนนี้เปิดจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ล่วงหน้าแล้ว ไปจับจ้องที่นั่งกันเลย!

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูหนัง 
 

ดูซีรีย์ : เดวิด เคน หรือ แบล็ค แมนต้า กลับมาเพื่อล้างแค้น ใน AQUAMAN 2


 ในตอนนี้ภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ยังคงเป็นของราชาแห่งผืนบาดาล Aquaman อาเธอร์ เคอร์รี จากฝีมือการกำกับของเจมส์ วานที่นำเสนอโลกใต้ทะเลที่ไม่เคยถูกสร้างมาก่อนในโลกภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ จัดเต็มทั้งอารมณ์ขัน เทคนิคพิเศษอลังการ และเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ ทำให้ตอนนี้พวกเขาเตรียมสร้างภาคต่อแล้ว แน่นอนว่านอกจากเจสัน โมมัวร์ที่จะกลับมารับบทนำอีกครั้ง ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จะได้วายร้ายสุดคลั่งแค้นอย่าง แบล็คแมนต้า กลับมาด้วย

ยะยาห์ อับดุล มาทีนที่ 2 ได้ให้สัมภาษณ์กับ Entertainment Weekly เกี่ยวกับอนาคตในบทบาทตัวละครวายร้ายของเขาในภาพยนตร์เรื่อง Aquaman 2 เขาพูดเอาไว้ว่า...

“เรามีวันฉายกันแล้วคือเดือนธันวาคม ปี 2022 หวังอย่างยิ่งเลยนะครับว่าพวกเขาจะยึดวันนั้นเอาไว้ ผมค่อนข้างมั่นใจเลยว่าแบล็คแมนต้าจะกลับมา ผมตื่นเต้นมากเลยที่จะได้กลับเข้าไปในโลกใบนั้นอีกครั้ง และสร้างปัญหาให้พวกเขาอีกสักหน่อย ผมตั้งใจที่จะใส่ตัวตนและแง่มุมใหม่ ๆ ของตัวละคร David Kane เข้าไปใน Aquaman 2 อีกนะครับ แล้วก็จะทำให้พัฒนาไปมากกว่าเดิมด้วย”

ในตอนจบและฉากพิเศษท้ายเครดิตของ Aquaman เราได้เห็นตัวละครแบล็คแมนต้า ที่รอดชีวิตมาได้ กำลังร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์เพื่อเปิดโปงการมีอยู่ของชาวแอตแลนติส และนั่นอาจนำไปสู่การก่อสงครามกันระหว่างโลกเบื้องบนและโลกใต้บาดาล แถมตัวละครของเขายังเก็บกักความแค้นที่เขาโยนความรับผิดชอบในการตายของพ่อเขาให้กับอาเธอร์ เคอร์รี เรื่องเราจะออกมาเป็นอย่างไร เราคงต้องรอติดตามกันต่อไป

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูซีรีย์



ดูซีรีย์ : รีวิวมีอะไรน่าสนใจในหนังที่ Mulan เผยตัวร้าย เรื่องราวใหม่ต่างจากแอนิเมชั่น


 หลังจากปล่อย Teaser ของภาพยนตร์เรื่อง Mulan ให้ได้ชมกันไปก่อนหน้านี้สักระยะหนึ่งแล้ว ในที่สุด Walt Disney Studios ก็ได้ปล่อยตัวอย่างฉบับเต็มของภาพยนตร์ฉบับคนแสดงเรื่องนี้ให้ทุกคนได้ชมกัน กับเรื่องราวสุดแสนประทับใจในฉบับแอนิเมชั่น กลับมาด้วยฝีมือการแสดงของหลิวอี้เฟย ในบท ฮัวมู่หลาน หลายฉากแทบจะถอดแบบมาจากแอนิเมชั่น ในขณะที่หลายฉากก็ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมเข้าไปใหม่ วันนี้เราจะพาไปดูกันว่ามันมีอะไรน่าสนใจในตัวอย่างฉบับเต็มนี้บ้าง

เริ่มจากคู่หูของมู่หลาน ที่ในฉบับแอนิเมชั่นเป็นเจ้ามังกรมูซู แต่ในเวอร์ชั่นนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นนกฟีนิกซ์แทน โดยในฉากนี้ พ่อของมู่หลานก็ได้อธิบายความสำคัญของนกฟีนิกซ์ว่าสาเหตุที่มันอยู่เคียงข้างกับองค์มหาจักรรดิ เพราะมันคือองครักษ์ข้างกายของพระองค์

ภาพตัดกลับมาเป็นฉากที่แทบจะถอดแบบมาจากแอนิเมชั่นกับ การฝึกฝนหน้าที่ของแม่บ้านแม่เรือน เพื่อเตรียมตัวมู่หลานให้พร้อมกับการออกเรือน

นี่คือ บอริ ข่าน ข้าศึกที่บุกมาจากทางตอนเหนือ มีความเป็นไปได้ว่าในภาพยนตร์จะอ้างอิงจากชาวมองโกล แตกต่างจากในแอนิเมชั่นที่เป็นชาวฮั่น โดยข้างกายของบอริ ข่านก็จะมีแม่มด Xian Lang แม่มดที่สามารถแปลงกายเป็นนกอินทรีได้ ซึ่งตรงกับฉบับแอนิเมชั่นที่แม่ทัพฮั่นที่บุกมานั้นก็จะมีนกอินทรีคู่กายด้วยเช่นกัน


เจ็ท ลี ในบทบาทขององค์มหาจักรรพดิ ที่ได้รับรายงานว่ามีข้าศึกบุกมาจากทางเหนือของดินแดน นั่นทำให้พระองค์ออกคำสั่งให้เกณฑ์ไพร่พลมาเป็นทหาร เมื่อมาถึงหมู่บ้านของมู่หลาน ครอบครัวนี้มีผู้เป็นพ่อเท่านั้นที่เป็นผู้ชายเพียงคนเดียว เพื่อเกียรติยศเขาจึงต้องอาสาด้วยตัวเอง แน่นอนว่ามู่หลานไม่ยอม
เช้าวันรุ่งขึ้น ครอบครัวที่ไม่เห็นมู่หลาน จึงรู้ได้ทันทีว่าลูกสาวของพวกเขาได้ปลอมตัวเป็นผู้ชายไปร่วมศึกเสียแล้ว ผู้เป็นพ่อจึงได้ขอพรจากบรรพบุรุษเพื่อให้ปกป้องมู่หลาน และดูเหมือนว่าบรรพบุรุษนั้นจะเป็นเจ้านกฟีนิกซ์ตัวนี้นี่เอง

เมื่อมาถึงค่ายฝึกฝน มู่หลานก็ได้ฝึกเป็นทหารเต็มตัว พร้อมกับปิดบังตัวตนความเป็นหญิงของตัวเองเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าคนที่จะรู้ตัวตนของมู่หลานจะเป็นเซียนหลาง แม่มดนกอินทรีตนนี้ ในภาพยนตร์นี้เราคงได้เห็นทั้งคู่เข้าปะทะจัดเต็มกันอย่างแน่นอน

ท้ายที่สุดแล้ว มู่หลานก็ยอมรับและเปิดเผยตัวตน เธอเข้าเผชิญหน้ากับข้าศึกอย่างไม่หวาดกลัว และตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะนำเกียรติยศมาสู่แผ่นดินจีนทั้งมวล

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูซีรีย์ 


ดูซีรีย์ : แสนยานุภาพแท้จริง ของเหล่าเทพเจ้าจักรวาล ความยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์ The Eternals


Marvel Cinematic Universe เฟสที่ 3 ในสิ้นสุดลงไปอย่างเป็นทางการแล้วใน Avengers: Endgame ในปี 2020 ที่จะถึงนี้จึงนับเป็นก้าวใหม่ก้าวต่อไปของเฟรนไชส์สุดใหญ่ยักษ์นี้ อย่างที่ทราบว่าในปีหน้าจะมีภาพยนตร์จากมาร์เวลเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เพียง 2 เรื่องเท่านั้น เริ่มต้นที่กลางปีด้วย Black Widow กับเรื่องราวที่เราไม่เคยรู้ของนาตาชา โรมานอฟ และปลายปีกับ The Eternals ภาพยนตร์ที่มีเรื่องราวใหม่ล่าสุด และจะเป็นประตูบานใหญ่ที่ต้อนรับทุกคนเข้าสู่โฉมหน้าที่ไม่เหมือนเดิมของ Marvel เฟสที่ 4

เว็บไซต์ ComicBook.com ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง The Eternals โดยเควิน ไฟกีประธานใหญ่ของ Marvel Studios เขาได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ถึงความสัมพันธ์ของทีมตัวละคร the Eternals กับเหล่า the Avengers แถมแง้มถึงพลังความสามารถของเหล่าเทพเจ้าแห่งจักรวาล Celestial ด้วย

“พวก the Eternals รู้ถึงการมีอยู่ของ the Avengers นะครับ แต่อเวนเจอร์สไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับพวกเขาเท่าไร...อย่างน้อยก็ในตอนนี้ พวกเซเลสเชียลจะเป็นส่วนสำคัญของเรื่องราว คุณได้เห็นส่วนเล็ก ๆ ของเซเลสเทียลไปแล้วใน Guardians of the Galaxy ดินแดนโนแวร์เป็นเพียงแค่หัวของเซเลสเชียลเท่านั้น เราจะได้เห็นเซเลสเชียลแบบเต็มตัว ร่างใหญ่ยักษ์ทรงพลังในหนัง The Eternals เรื่องนี้”

แม้ว่าจะมีการเปิดเผยออกมาเช่นนี้ แต่เราทราบเรื่องราวเกี่ยวกับเนื้อหาของภาพยนตร์ the Eternals น้อยมาก เรารู้แค่เพียงว่านี่จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตอันไกลโพ้นของโลก และมีบางส่วนที่เป็นเนื้อเรื่องเกิดขึ้นใกล้เคียงกับยุคสมัยในปัจจุบันด้วย อย่างไรก็ตามยังมีเวลาเหลืออยู่อีกพอสมควรจนกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าฉายในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2020

แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น กลางปีหน้ามาพบกับเรื่องราวของนาตาชา โรมานอฟ ที่เธอต้องหลบหนีไปสะสางอดีตหลังเกิดเหตุการณ์ใน Captain America: Civil War ก่อนที่เธอจะย้อมผมบลอนด์ไปร่วมทีมใน

Avengers: Infinity Wars กับภาพยนตร์ที่เราจะได้ไปเห็นทุกแง่มุมของสายลับรหัสแม่ม่ายดำ Black
Widow วางกำหนดฉายเอาไว้ 30 เมษายน 2020

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูซีรีย์ 
 

วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ดูซีรีย์ : นักแสดงนำ 3 ตัวหลัก ยืนยันจะไม่กลับมาในหนัก Star Wars อีก หลังสิ้นสุดยุคสกายวอล์คเกอร์


Star Wars ภาคใหม่ล่าสุดที่กำลังจะมาถึงอย่าง Star Wars: The Rise of Skywalker ที่นอกจากจะเป็นภาคที่ปิดฉากเรื่องราวของ Star Wars ไตรภาคยุคใหม่ ที่เริ่มต้นโดย Force Awaken และต่อด้วย Last Jedi แล้ว มันยังจะเป็นภาคที่ 9 ที่จะเป็นการปิดฉากเรื่องราวทั้งหมดของเฟรนไชส์ Star Wars ที่เคยมีมา ในชื่อของตำนานอย่าง Skywalker Saga ที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1977 อีกด้วย

และนอกจากนี้ถึงแม้ว่าจะมีข่าวยืนยันอย่างเป็นทางการ ว่าแม้มันจะเป็นการปิดฉาก Saga แรก แต่ เฟรนไชส์ Star Wars ก็จะยังเดินหน้าต่อไปข้างหน้า แต่ในวันนี้ดูเหมือนว่าจะมีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า 3 นักแสดงหลักยุคไตรภาคใหม่อย่าง Daisy Ridley ในบท Rey, John Boyega ในบท Finn และ Oscar Isaac ในบท Poe จะไม่ร่วมเดินทางต่อในเฟรนไชส์ Star Wars ยุคต่อไป เพราะจากการให้สัมภาษณ์ที่ชัดเจนคาดว่า The Rise of Skywalker จะเป็นภาคที่สิ้นสุดบทบาทของพวกเขาเหมือนกัน

จากการพูดคุยกับสื่อ Variety. Boyega ได้บอกว่า เขาไม่ได้มีแผนที่จะไปโผล่ในซีรี่ย์ Star Wars อย่างเช่น The Mandalorian เลย “ผมไม่ได้เข้าไปอยู่ในซีรี่ย์ Disney+ ครับ แต่ผมดูมันนะ” และเขาก็ได้พูดเพิ่มเติมว่า หาก Ridley และ Isaac กลับมาในเฟรนไชส์อีกครั้ง เขาก็พร้อมจะกลับมาเหมือนกัน. แต่ดูเหมือนว่าอีก 2 นักแสดงจะรู้สึกอิ่มตัวกับเฟรนไชส์นี้แล้ว...

Isaac ได้บอกว่า “ผมรู้สึกมีความสุขและเต็มอิ่มมากที่งานได้สำเร็จลุล่วง. และผมก็จินตนาการไม่ออกว่าอะไรจะทำให้ผมต้องการจะทำมันอีกครั้งหรือกลับมาเยี่ยมเยือนเฟรนไชส์นี้ในอนาคตครับ”

Ridley บอกว่า “จากใจจริงๆเลยนะ คือฉันไม่รู้เลยว่าจะมีอะไรนอกเหนือไปจากภาคนี้อีกไหม ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องราวที่ดีมากแล้ว และเป็นการปิดฉากที่ดีมากๆ และแม้ว่าจะเห็นได้ชัดว่าเหล่าตัวละครจะยังมีตัวตนอยู่ต่อไป และอาจจะมีโอกาสพิเศษที่จะได้กลับมา แต่ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะเป็นไปได้หรือเปล่านะ”

ไม่แน่ว่าบทของทั้ง 3 จะต้องปิดฉากลงกลายเป็นตำนานอีกยุคหนึ่ง ของเฟรนไชส์ Star Wars ในภาคนี้ เพื่อที่จะถูกพูดถึงในยุคต่อไปก็ได้นะ

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูซีรีย์
 

ดูซีรีย์ : คริสเตียน เบลกวาดทุกซีนอยู่หมัด โคตรเดือด โคตรมันส์ ในภาพยนตร์เรื่อง Ford V Ferrari


ในโลกภาพยนตร์มีภาพยนตร์แนวซิ่งรถประลองความเร็วอยู่มากมาย แต่เชื่อเราเถอะว่ายังไม่มีภาพยนตร์แข่งรถเรื่องไหนที่เดือดดาล และหนักแน่นไปทุกส่วนของอารมณ์เท่า Ford V Ferrari ภาพยนตร์ที่หน้าหนังอาจจะดูเป็นความดราม่าชีวิตที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่ภายในอัดแน่นไปด้วยความแรงระดับหลายร้อยแรงม้า ไม่เพียงแค่การปะทะบทบาทกันระหว่างแมตต์ เดม่อน กับคริสเตียน เบลเท่านั้น แต่ฉากแข่งรถในศึก the Le Mans การแข่งรถที่โหดหินที่สุดในโลกก็ยังสุดมันส์ ชวนให้ลุ้นทุกขณะ

  Ford V Ferrari เป็นเรื่องราวศึกการแข่งขันระหว่างสองยักษ์ใหญ่วงการรถยนต์ Ford และ Ferrari ในช่วงที่ฟอร์ดกำลังประสบปัญหาขาดทุนหนักจนสุ่มเสี่ยงต้องปิดกิจการ พวกเขาตั้งมั่นจะซื้อกิจการของ Ferrari ที่โดดเด่นคว้าชัยการแข่งรถที่โหดหินที่สุดมาได้ 4 ปีซ้อน แต่แน่นอนว่าเฟอร์รารีปฏิเสธพร้อมเหยียดหยามอย่างหนัก นั่นทำให้ฟอร์ดฉุนหนักจนตัดสินใจตั้งทีมแข่งรถของตัวเอง และมีเป้าหมายในการขยี้เฟอร์รารีให้สิ้นซากในการแข่งขัน the Le Mans ครั้งต่อไป

ในขณะเดียวกัน อีกมุมหนึ่งเคน ไมล์ส นักแข่งและช่างซ่อมรถที่กำลังประสบปัญหาด้านการเงินจนอู่ซ่อมรถถูกยึด ก็ได้รับข้อเสนอจากเพื่อนสนิท แคร์โรล เชลบี้ อดีตนักแข่งอเมริกันคนเดียวที่เคยชนะรายการ the Le Mans มาได้ เคนใจอ่อนยอมร่วมเข้าสร้างทีมแข่งรถให้กับฟอร์ดที่พร้อมทุ่มทุนไม่อั้น แต่พวกเขาไม่เพียงแต่ต้องเผชิญหน้ากับศึกนอกกับเฟอร์รารี แต่ยังต้องเผชิญหน้ากับศึกภายในกับฟอร์ดด้วย นี่จึงเป็นบทพิสูจน์ทั้งมิตรภาพ ศักดิ์ศรี และความหลงใหลในการแข่งรถของพวกเขาทั้งคู่

สิ่งแรกที่ต้องชื่นชมเลยก็คือ การแสดงขอคริสเตียน เบล ในบทของเคน ไมล์ส นักแข่งรถเลือดร้อนฝีปากร้ายแต่ฝีมือก็ฉกาจฉกรรจ์ไม่มีใครเทียม แน่นอนว่าการแสดงที่เหมือนไม่ได้แสดงของเขายังคงตรึงตาพวกเราเอาไว้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ เมื่อประกับคู่กับแมตต์ เดม่อน ในบทแคร์โรล เชลบี้ ที่ถ่ายทอดบทบาทของการเป็นตัวกลางที่ต้องเชื่อมระหว่างทีมแข่งของเขา กับผู้ให้ทุนอย่างฟอร์ด ทั้งหมดนำไปสู่บทสรุปของทั้งสองบทในตอนท้ายที่ชวนให้จุกอกแต่ก็ประทับใจได้อยู่ในทีเดียว

ฉากไฮไลท์ของภาพยนตร์อย่าง the Le Mans การแข่งขันรถที่โหดหินที่สุดในโลก ด้วยการที่นักแข่งจะต้องขับรถยนต์ทำความเร็วกันตลอด 24 ชั่วโมงของการแข่งขัน การแข่งที่ยาวนานแต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ตัดต่อและเรียบเรียงออกมาได้ตื่นเต้นไม่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย มีจังหวะผ่อนหนักผ่อนเบา เร่งเร้าแข่งขันจนถึงขีดสุด ก่อนจะแลนด์ดิ้งลงด้วยบทสรุปของการแข่งขันที่ทำให้หนังเรื่องนี้ยอดเยี่ยมขึ้นไปอีกขั้น

ใครที่เคยประทับใจกับ Logan ที่กำกับโดย เจมส์ แมนโกลด์ ผู้กำกับคนเดียวกันกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เราจะได้เห็นฝีมือของเขาอีกครั้ง ที่คราวนี้แม้จะไม่ได้มืดมนหรือหดหู่เหมือนกับโลแกน แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้เราจะได้เห็นจังหวะการกำกับของเขาที่ชวนให้ติดตาม 2 ชั่วโมงครึ่ง สมแล้วกับคำชื่นชมที่ได้รับมาอย่างล้นหลาม อย่างไรก็ตามอย่าปล่อยให้เราชวนเชื่อเพียงฝ่ายเดียว ไปพิสูจน์ความยอดเยี่ยมของ Ford V Ferrari กันได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูซีรีย์ 
 

ดูซีรีย์ : ทำไม The Dark Knight ไม่มีภาค4 คริสเตียน เบล ออกมาเฉลย


ในปี 2005 ถือเป็นปีที่โลกภาพยนตร์ได้แบทแมนคนใหม่มาร่วมจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ นั่นคือ แบทแมน ที่แสดงโดยคริสเตียน เบล และกำกับโดยคริสโตเฟอร์ โนแลน ถือเป็นภาพยนตร์แบทแมนที่ดัดแปลงจากคอมิกส์ฉบับที่  4 และได้กลายเป็นภาพยนตร์ชั้นเยี่ยมที่ได้รับการยอมรับทั้งนักวิจารณ์และตารางหนังทำเงิน ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์ไตรภาค ได้แก่ Batman Begins, The Dark Knight และ The Dark Knight Rises ด้วยความสำเร็จทั้งรายได้และความนิยม ทำให้เกิดคำถามว่าทำไมพวกเขาไม่สร้างต่อเนื่องเป็นภาคที่ 4

ล่าสุด คริสเตียน เบล ผู้รับบทบรูซ เวนย์ หรือ Batman ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้กับ Toronto Sun ระหว่างการโปรโมตภาพยนตร์เรื่องใหม่ Ford V Ferrari นักแสดงหนุ่มมากฝีมือผู้นี้ได้ให้คำตอบเอาไว้ว่า...

“ในตอนที่พวกเขาเข้ามาถามผมว่า ‘นายอยากแสดงอีกสักเรื่องไหม?’ มันยอดไปเลยนะครับ แต่ผมตอบไปว่า ‘นั่นสิ เราคงจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว’ จนพวกเขาเข้ามาพูดอีกว่า ‘โอเค งั้นสร้างภาค 3 ก่อนแล้วกัน’...

...คริสบอกผมอยู่เสมอเลยนะครับว่าถ้าเราโชคดีได้สร้างถึงภาคที่ 3 เราก็จะหยุดอยู่แค่นั้น เขาพูดว่า ‘จบแล้วก็เดินหน้ากันต่อเถอะ’ หลังจากนั้นพวกเขาก็เข้ามาพูดกับพวกเราอีกว่า ‘คิดว่าถ้าสร้างต่อภาค 4 เป็นยังไง’ ผมก็ตอบไปว่า ‘ไม่  เราต้องยึดตามที่คริสตั้งใจเอาไว้สิ ความฝันที่เขาอยากจะทำแค่ไตรภาค ไม่ขยายมันจนไกลกว่านั้น จนกลายเป็นอะไรที่มันมากเกินไป’”

ถือเป็นคำตอบที่ชัดเจนสำหรับไตรภาค Batman ของคริสโตเฟอร์ โนแลน ด้วยเนื้อเรื่องที่เดินทางมาสู่บทสรุปอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าในเวอร์ชั่นนี้อาจจะจบลงไปแล้ว ก็เตรียมตัวพบกับ Batman ในเวอร์ชั่นการกำกับของแมตต์ รีฟ ที่จะได้โรเบิร์ต แพททินสันมารับช่วงบทบาทนี้ต่อไป

ส่วนใครที่อยากติดตามผลงานของคริสเตียน เบล ก็เตรียมพบกับภาพยนตร์เรื่องใหม่ Ford V Ferrari  กำหนดฉาย 5 ธันวาคมนี้ในโรงภาพยนตร์

บันเทิงต่อที่นี่ >> ดูซีรีย์ 
 

หนังออนไลน์ : กัปตันอเมริกาแห่งรัสเซีย Red Guardian ตัวละครคนใหม่แห่ง MCU ในฉบับคอมิกส์คือสามีนาตาชา


จากตัวอย่างแรก Black Widow หนังเรื่องล่าสุดแห่งเฟรนไชส์ Marvel ที่กำลังจะมาถึง ที่นอกจากจากจะมีการเปิดเผยฉากแอ็คชั่นและเนื้องเรื่องที่น่าสนใจใหม่ๆมากมายแล้ว ภายในตัวอย่างยังมีการเปิดเผยบทบาทบางส่วนของเหล่านักแสดงหน้าใหม่ที่ได้เข้าร่วมจักรวาล MCU อย่างเป็นทางการอีกด้วย ซึ่ง 1 ในนั้นก็คือ นักแสดงชายอย่าง เดวิด ฮาร์เบอร์ (David Harbour) จากซีรี่ย์ชื่อดัง The Stranger Things ที่เขาจะเข้ามารับบทเป็น Red Guardian หรือ Captain America แห่งรัสเซีย! ตามเวอร์ชั่น Comics

Red Guardian คือใคร

มีตัวละครหลายตัวจำนวนไม่น้อยเคยใช้ชื่อ Red Guardian แต่เขาคนนี้ที่จะมีบทบาทภายในหนัง Black Widow คือ Red Guardian ที่มีชื่อจริงว่า Alexi Shostakov. The Red Guardian คือชื่อของบุคคลที่ถูกตั้งให้เป็นตัวแทนเหมือนกับ Captain America แห่ง สหภาพโซเวียต เป็นวีรบุรุษประจำประเทศชาติ เขาจะมาพร้อมกับยูนิฟอร์มสีแดง และหน้ากากคล้ายกับ กัปตันอเมริกา บนชุดของเขามีดาวแห่งโซเวียตกลางอก และเขาเป็นชายที่แข็งแกร่ง ที่ได้รับการฝึกฝนขั้นสูงทั้งทักษะการต่อสู้ทางด้านร่างกาย กล้ามเนื้อ และสมอง

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือในเวอร์ชั่นคอมมิค Shostakov ยังเคยแต่งงานกับ นาตาชาด้วย ซึ่งหากพูดตามตรงแล้ว เป็นเพราะความสัมพันธ์นี้ของทั้งคู่นี่แหละที่เป็นสิ่งชี้นำให้ นาตาชา มอบชีวิตให้กับการเป็นสปายของ KGB

แล้ว Red Guardian เขาเป็นใคร? มีจุดประสงค์อะไร เป็นซูเปอร์ฮีโร่หรือเป็นวายร้าย? มีพลังอะไร? และมีอาวุธประจำกายแบบ Captain America หรือไม่? เราลองไปทำความรู้จักเขา ตามการอ้างอิงจากเวอร์ชั่น Comics กัน

พลัง ความสามารถ และอาวุธของ Red Guardian

จริงๆแล้วพลังของเขายังไม่ชัดเจนนัก. แต่ในเวอร์ชั่นคอมมิค กับการปะทะกันครั้งแรกระหว่าง Red Guardian และ Captain America ทั้งคู่ต่อสู้ได้อย่างสูสี ถึงขั้นทำให้ Cap ช็อคเนื่องจากความเร็วและการตอบโต้การโจมตีของแคป Red Guardian ตั้งรับและตามทันได้หมดเลย

Red Guardian บอกกับ Cap ว่า “ฉันถูกฝึกมาเพื่อให้เป็นนาย! ไม่ใช่แค่เพียงการลอกเลียนแบบ!”

Shostakov ใช้ดาวเหล็กขนาดใหญ่บนหน้าอกกลางชุดของเขาเป็นอาวุธในการขว้างโจมตี เหมือนกับการใช้โล่ของ Cap ในการโจมตี และแม่เหล็กที่อยู่บนมือของเขาจะดูดดาวเหล็กกลับมาหาเขา พลังการขว้างดาวของเขาไม่เพียงแค่ทำให้กัปตันอเมริกาต้องชะงักเท่านั้น แต่มันยังสามารถสร้างพลังโจมตีให้กับโล่ไวเบรเนี่ยมอีกด้วย

ก่อนที่จะมาเป็น Red Guardian. Shostakov เคยเป็นนักบินทดสอบแห่ง สหภาพโซเวียต มาก่อน นอกจากนี้ในเวอร์ชั่นคอมมิค  Shostakov ยังเคยใช้ชื่อของ โรนิน (Ronin) อีกด้วย

Black Widow เข้าฉาย 29 เมษายน 2020 ในโรงภาพยนตร์

บันเทิงต่อที่นี่ >> หนังออนไลน์ 
 

ดูหนังออนไลน์ฟรี movie2thai แอมเบอร์ เฮิร์ด ยังไม่ถูกปลดจากเรื่อง AQUAMAN 2

เฟิร์มแล้ว ยังอยู่ต่อ… หลังจาก แอมเบอร์ เฮิร์ด มีประเด็นความขัดแย้งกับ จอห์นนี่ เดปป์ อย่างที่ทราบกันดีถึงคดีเดือดของความขัดแย้งระหว่าง...